Hippocamp ถูกเห็นครั้งแรกในภาพถ่ายจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลซึ่งได้ถ่ายไว้ในปี 2009 Mark Showalter และทีมนักดาราศาสตร์ที่สถาบันวิจัย SETI Institute ในสหรัฐอเมริกาผู้ค้นพบได้นำภาพถ่ายจากกล้องฮับเบิลที่ถ่ายไว้ระหว่างปี 2004 – 2009 ทั้งหมดมาวิเคราะห์ ด้วยเทคนิคการซ้อนภาพและการขจัดความเบลอจากการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วของดวงดาว ในที่สุดพวกเขาก็สามารถยืนยันและประกาศการค้นพบเมื่อเดือนกรกฎาคม 2013
จากนั้นพวกเขาได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมจากข้อมูลภาพถ่ายโดยกล้องฮับเบิลเมื่อปี 2016 และตั้งชื่ออย่างเป็นทางการโดยได้รับการรับรองจากสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล (IAU) แล้ว ชื่อ Hippocamp นำมาจากชื่อของสัตว์ครึ่งม้าครึ่งปลาในเทพนิยายกรีกโบราณ
จากข้อมูลล่าสุด Hippocamp มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 34 กม. เป็นดวงจันทร์ที่เล็กที่สุดของดาวเนปจูน จัดอยู่ในกลุ่มดวงจันทร์ชั้นในโคจรอยู่ใกล้กับดวงจันทร์ที่ชื่อ Proteus ค่อนข้างมาก ทีมวิจัยเชื่อว่าเมื่อหลายพันล้านปีก่อนดวงจันทร์ Proteus ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 420 กม.ถูกดาวหางชนและมีชิ้นส่วนหลุดกระเด็นออกมาและกลายเป็น Hippocamp ในปัจจุบัน
“สำหรับผมสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดเกี่ยวกับ Hippocamp คือการที่ไม่ควรมีมันอยู่ตรงนั้น” Showalter กล่าว “จากข้อมูลที่เรารู้มาก่อนเกี่ยวกับวิวัฒนาการของวงโคจรของ Proteus มันไม่มีเหตุผลใดๆเลยให้คาดคิดว่าจะมีดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งที่พบ Hippocamp และนั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เราคิดว่า Hippocamp เป็นชิ้นส่วนที่หลุดออกมาจาก Proteus”
ถึงจะเป็นดวงจันทร์ดวงเล็กๆแต่ Hippocamp ก็สร้างความตื่นเต้นได้ไม่น้อย มันอาจสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดของวงแหวนและดวงจันทร์ของดาวเนปจูน และที่สำคัญเทคนิคที่ใช้ในการค้นหามันจะเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่อาจนำไปสู่การค้นพบครั้งใหม่ได้อีก
“ความจริงก็คือผมเกือบจะไม่พบมันอยู่แล้ว ถ้าผมไม่ได้คิดวิธีใหม่ในการประมวลผลข้อมูลเราอาจจะไม่พบ Hippocamp” Showalter กล่าว “เรารู้ว่ายาน Cassini ค้นพบดวงจันทร์ของดาวเสาร์ 6 ดวงที่มีขนาดเล็กเกินกว่าที่ยาน Voyager จะมองเห็นได้ ผมแน่ใจว่าดาวยูเรนัสและดาวเนปจูนมีดวงจันทร์ขนาดเล็กอยู่อีก พวกมันจะถูกค้นพบเมื่อนาซาและองค์การอวกาศยุโรปส่งยานไปโคจรรอบดาวยูเรนัสและดาวเนปจูนในที่สุด”
ข้อมูลและภาพจาก space, seti.org