ด้านบนปลูกสร้างเป็นที่อยู่อาศัย มีร่องรอยการขยายขนาดของ Crannog ซึ่งน่าจะเพื่อรองรับครอบครัวและชุมชนที่เติบโตขึ้น Crannog ที่เป็นเหมือนเกาะเล็กๆมีน้ำล้อมรอบเหล่านี้กลายเป็นสถานที่เก็บรักษาสิ่งของเครื่องใช้ของมนุษย์สมัยโบราณเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม มีการขุดพบกระดูกวัว กวางและหมู เครื่องใช้ที่ทำจากไม้ แม้กระทั่งผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมซึ่งยังคงถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์แม้จะผ่านเวลาไปแล้วหลายพันปีก็ตาม
จากการขุดค้นที่เริ่มมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 และด้วยการหาอายุสิ่งของโดยคาร์บอนกัมมันตรังสีทำให้นักโบราณคดีเชื่อว่า Crannog ซึ่งบางแห่งยังคงถูกใช้งานจนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1760 นั้นน่าจะมีการก่อสร้างครั้งหลังสุดในราว 800 ปีก่อนคริสต์ศักราช แต่ในปี 2012 Chris Murray ผู้พักอาศัยที่เกาะเล็กๆแห่งหนึ่งในสกอตแลนด์ที่เรียกว่า Isle of Lewis ได้พบภาชนะจากยุคหินที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่บริเวณ Crannog จึงได้มีการสำรวจร่วมกับ Mark Elliot จากพิพิธภัณฑ์ Museum nan Eilean และมหาวิทยาลัยเซาท์แฮมป์ตัน จนได้ค้นพบกับภาชนะที่คล้ายๆกันที่ Crannog อื่นอีก 5 แห่งบนเกาะนั้น
ทีมงานได้ทำการสำรวจทั้งบนบกและในน้ำด้วยวิธีการและเทคนิคหลายอย่าง รวมทั้งการสำรวจถ่ายภาพ (Photogrammetry), การเจาะเพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมบรรพกาล (Palaeoenvironment), การขุดค้น (Excavation) และการตรวจหาอายุด้วยคาร์บอนกัมมันตรังสี พวกเขาสรุปว่า Crannog มีอายุระหว่าง 3,640 ถึง 3,360 ก่อนคริสต์ศักราช หรือราว 5,500 ปีมาแล้ว ซึ่งหมายถึงพวกมันถูกสร้างขึ้นก่อนสโตนเฮนจ์ถึง 500 ปี
นอกเหนือจากเรื่องอายุแล้วทีมวิจัยยังได้ตั้งข้อสังเกตเกี่่ยวกับเศษเซรามิกชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่งว่ามันได้บ่งชี้ว่าภาชนะนั้นอาจถูกวางไว้ใต้น้ำเพื่อวัตถุประสงค์ในพิธีกรรมบางอย่าง อย่างไรก็ตามยังมีงานอีกมากที่ต้องทำเพราะมีเพียง 10% ของ Crannog เท่านั้นที่ได้มีการตรวจหาอายุด้วยคาร์บอนกัมมันตรังสีแล้ว
“Crannog เหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามอันยิ่งใหญ่ในการสร้างเกาะเล็กๆด้วยการเรียงกองหินจำนวนมากลงบนพื้นทะเลสาบ” Fraser Sturt นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยเซาท์แฮมป์ตันกล่าว “ดูเหมือนเป็นไปได้อย่างสูงที่จะพบ Crannog ยุคหินอีกจำนวนมาก งานวิจัยของเราได้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบที่หลากหลายในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และ Crannog เหล่านี้จะช่วยให้ความเข้าใจของเราเกี่ยวกับอดีตของมนุษยชาติได้ดีขึ้น”
ข้อมูลและภาพจาก newatlas, sciencealert