เช่นดียวกับการเสพงานศิลป์การดื่มไวน์ถือเป็นสุนทรียศาสตร์ที่ต้องมีเทคนิคและรายละเอียดหลายอย่าง เริ่มจากรินไวน์ลงไปปริมาณหนึ่งในสามของแก้วหรือตรงระดับที่แก้วกว้างมากที่สุด แล้วจับที่ก้านแก้วยกขึ้นส่องดูความใส ความขุ่น และสีของไวน์ไปพร้อมๆกับเปิดโอกาสให้ไวน์ได้หายใจสัมผัสกับอากาศ ดูเสร็จแล้วให้แกว่งแก้วเบาๆให้ไวน์หมุนวนเป็นการเร่งการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศเพื่อให้ไวน์ปลดปล่อยกลิ่นหอม (Aroma) ออกมาเต็มที่ จากนั้นยกแก้วไวน์ขึ้นมาจรดจมูกแล้วหลับตาสูดดม หลังการดมกลิ่นครั้งแรกให้แกว่งแก้วไวน์แรงๆแล้วสูดดมกลิ่นจางๆที่ซ่อนอยู่ (Bouquet) อีกครั้งหนึ่ง
จบการดมกลิ่นก็มาถึงการชิมรสของไวน์ (Body) การดื่มจังหวะแรกต้องแค่จิบเพียงเล็กน้อย อมไวน์ไว้ก่อนเพื่อที่จะให้ลิ้นได้สัมผัสและแยกแยะรสของมันก่อนแล้วถึงค่อยกลืนลงไป หลังจากกลืนแล้วให้สังเกตรสที่ยังเหลือค้างในปาก (After Taste) ว่าเป็นอย่างไรด้วย จากนั้นจึงจะเป็นการดื่มแบบเต็มคำต่อไป แล้วแก้วไวน์มีส่วนช่วยให้รสชาติของไวน์ดีขึ้นได้อย่างไรล่ะ?
ส่วนที่สำคัญที่สุดของแก้วไวน์ก็คือตัวแก้ว ทั้งขนาดและรูปทรงของตัวแก้วสร้างความแตกต่างในกลิ่นและรสของไวน์มากทีเดียว ตัวแก้วที่ใหญ่กว่ากว้างกว่าช่วยเพิ่มพื้นที่ของไวน์ให้สัมผัสกับอากาศได้มากกว่า กลิ่นของไวน์จึงถูกขับออกมาได้ดีกว่า ในขณะที่ตัวแก้วที่เล็กกว่าจะรักษาอุณหภูมิของไวน์ให้คงที่ได้ดีกว่า มุมของตัวแก้วที่เอียงเข้าจนถึงขอบแก้วช่วยกักกลิ่นของไวน์เอาไว้และทำให้มีกลิ่นเข้มข้นที่สุดตรงขอบแก้วช่วยให้การดมกลิ่นได้ดีขึ้น
ขอบแก้วต้องบางเพื่อที่จะให้การดื่มไวน์นั้นไหลลื่นนุ่มละมุน ที่สำคัญยังช่วยให้เกิดการสัมผัสที่อ่อนนุ่มในยามที่เอาปากไปแตะกับขอบแก้ว ก้านแก้วจำเป็นต้องมีเพื่อใช้จับแก้วขณะยกขึ้นดื่มเพราะหากจับที่ตัวแก้วจะทำให้อุณหภูมิของไวน์เพิ่มขึ้นมีผลให้รสชาติของไวน์เปลี่ยนไป รวมทั้งป้องกันไม่ให้กลิ่นจากมือของผู้ชิมเข้าไปปะปนกับกลิ่นของไวน์อีกด้วย แก้วไวน์ที่ทำจากคริสตัลจะบางกว่าและใสกว่าแก้วชนิดอื่น ช่วยให้การดื่มรู้สึกนุ่มละมุนกว่าและการส่องดูความใสและสีของไวน์ทำได้ดีกว่า
แก้วไวน์จึงถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการดื่มไวน์แต่ละชนิด แก้วไวน์รูปทรงมาตรฐานสำหรับแต่ละชนิดของไวน์ที่มีอยู่ทั้งหมด 5 ชนิดเป็นดังต่อไปนี้
ตัวแก้วมีขนาดใหญ่ รูปทรงอ้วนและปากกว้าง เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้อากาศเข้าไปทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) กับไวน์ในแก้วซึ่งจะช่วยทำให้กลิ่นและรสของไวน์แดงนุ่มละมุนสมบูรณ์แบบมากขึ้น
ตัวแก้วมีขนาดเล็กกว่าและเรียวกว่าของไวน์แดงเพื่อรักษาระดับอุณหภูมิได้นานกว่าและให้ Aroma คลุ้งมาตามแก้วไวน์ได้ดี อีกทั้งไวน์ขาวไม่ได้ต้องการปฏิกิริยาออกซิเดชั่นมากเท่าไวน์แดง
ตัวแก้วมีรูปทรงแคบและยาวเพื่อลดการสัมผัสกับอากาศของไวน์ซึ่งจะช่วยเก็บรักษาอุณหภูมิและความซ่าอันเป็นเอกลักษณ์ของไวน์ชนิดนี้ไว้ให้นานที่สุด ก้านแก้วจะยาวเป็นพิเศษเพื่อป้องกันมิให้ความร้อนจากมือผู้ชิมไปทำให้ความซ่าของไวน์ลดลง
ตัวแก้วมีขนาดปานกลางแต่เรียวและปากไม่กว้างคล้ายกับของไวน์ขาวเนื่องจากไวน์ชนิดนี้ไม่ได้ต้องการปฏิกิริยาออกซิเดชั่นมากนักเช่นกัน
ตัวแก้วควรมีขนาดเล็กและสั้นเนื่องจากไวน์ชนิดนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์สูง และมักจะมีหลายรูปทรงขึ้นอยู่กับระดับความหวานและปริมาณแอลกอฮอล์
สำหรับผู้รักการดื่มไวน์ส่วนใหญ่การเลือกใช้แก้วไวน์ที่ถูกต้องย่อมสามารถเติมเต็มประสบการณ์การดื่มไวน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่สำหรับบางคนกลับคิดว่าแก้วไวน์ที่ดีที่สุดนั้นเป็นความชอบส่วนตัวของแต่ละคนมากกว่า
“ฉันสนุกกับการชิมไวน์ที่แตกต่างจากแก้วที่แตกต่างกันเพื่อดูความหลากหลายและรสชาติที่แตกต่างกัน” Ganna Fedorova ผู้อำนวยการเครื่องดื่มประจำชาติของบริษัท City Winery เจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับไวน์รายใหญ่ที่สหรัฐอเมริกากล่าว “ไวน์มีความลึกลับพอๆกับความเป็นวิทยาศาสตร์ เพราะอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของไวน์ทุกชนิดเป็นเรื่องของเวทมนต์ล้วนๆ!”
ข้อมูลและภาพจาก howstuffworks, lucariscrystal