เด็กหนุ่มมุ่งมั่นเป็นศิลปินโดยไม่ย่อท้อ
วิลเลี่ยม-อดอล์ฟ บูเกอโร เป็นชาวฝรั่งเศส เกิดเมื่อปี 1825 ที่เมือง La Rochelle เมืองท่าทางตะวันตกของประเทศฝรั่งเศสในครอบครัวของพ่อค้าไวน์และน้ำมันมะกอก เขาถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดแบบคาทอลิก แต่เขารักและผูกพันกับวิถีชีวิตแบบชาวบ้านริมทะเลมาก พออายุ 12 ปีเขาย้ายไปอยู่กับลุงซึ่งเป็นบาทหลวงอยู่ที่เมือง Mortagne เป็นช่วงเวลาที่เขาได้สัมผัสกับวรรณกรรมคลาสสิก ได้ท่องเที่ยวชมธรรมชาติและเรียนรู้ด้านศาสนา ซึ่งภายหลังเขาบอกว่านี่เป็นช่วงที่เขามีความสุขที่สุดในชีวิต
ปี 1839 บูเกอโรถูกส่งไปเรียนเป็นนักบวชที่โรงเรียนคาทอลิกในเมือง Pons ไม่ไกลจากบ้านเกิด ที่นั่นนอกจากการเรียนด้านศาสนาแล้วเขายังได้เรียนการเขียนภาพกับ Louis Sage ลูกศิษย์คนหนึ่งของ Jean-Auguste-Dominique Ingres ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค การเรียนของเขาต้องสะดุดหยุดลงเพราะถูกเรียกให้กลับไปช่วยงานของครอบครัวที่ย้ายไปอยู่ที่เมืองบอร์กโดซ์ แต่เขาไม่ยอมหยุดเรียนศิลปะแบ่งเวลาไปเป็นผู้ช่วยของ Charles Marionneau ศิลปินท้องถิ่นเมืองบอร์กโดซ์และเข้าเรียนที่โรงเรียนศิลปะ Municipal School of Drawing and Painting เขาพยายามเก็บเงินเพื่อส่งตัวเองไปเรียนศิลปะที่กรุงปารีสและทำได้สำเร็จในปี 1846
บูเกอโรในวัย 20 ปีเริ่มต้นที่กรุงปารีสด้วยการไปเป็นลูกศิษย์และช่วยทำงานในสตูดิโอของ François-Édouard Picot จิตรกรผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งซึ่งเป็นโอกาสที่เขาได้เรียนการเขียนภาพสไตล์ศิลปะตามหลักวิชาหรือศิลปะสถาบัน (Academic Art) ก่อนที่เขาจะสามารถสอบเข้าสถาบัน École des Beaux-Arts ได้แบบฉิวเฉียดเกือบเป็นคนสุดท้าย แต่พอได้เรียนเขาเริ่มฉายแววพรสวรรค์อันเด่นล้ำจนกลายเป็นนักเรียนชั้นแนวหน้า ผลงานสำคัญชิ้นแรกในช่วงที่เป็นนักเรียนศิลปะช่วงนี้คือภาพ Equality Before Death
นักเรียนทุนหาประสบการณ์ในต่างแดน
บูเกอโรเข้าแข่งขันชิงทุน Prix de Rome ซึ่งเป็นที่หมายปองของนักเรียนศิลปะทุกคนเป็นครั้งแรกในปี 1848 แต่ล้มเหลว เขาพยายามอีกครั้งในปีถัดมาซึ่งก็ไม่สำเร็จเช่นเดิม แต่เขาไม่ย่อท้อเข้าแข่งขันอีกในปีต่อมาซึ่งคราวนี้เขาทำสำเร็จสามารถชนะเลิศการแข่งขันด้วยภาพ Zenobia Found by Shepherds on the Banks of the Araxes ได้รับทุนไปเรียนที่อิตาลีเป็นเวลา 3 ปี และในการแข่งขันคราวนี้เขายังได้เขียนภาพ Dante and Virgil ที่ต่อมาสร้างชื่อเสียงให้กับเขาอย่างมาก
บูเกอโรไปถึงอิตาลีในปี 1851 เข้าเรียนที่สถาบัน The French Academy ในกรุงโรม การได้มาเรียนที่อิตาลีนอกเหนือจากการเรียนในสถาบันเขายังมีโอกาสได้ศึกษาผลงานของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ยุคก่อนมากมายหลายคน เช่น Leonardo da Vinci, Raphael, Michelangelo, Titian และ Rubens เป็นต้น โดยเขาชื่นชอบผลงานของ Raphael เป็นพิเศษและได้คัดลอกภาพเขียนของ Raphael ใช้เป็นผลงานในการเรียนที่สถาบันด้วย ผลงานของ Raphael มีอิทธิพลต่อสไตล์การเขียนภาพของเขาในเวลาต่อมาอย่างมาก นอกจากนี้เขายังได้ศึกษารูปปั้นเก่าแก่สมัยกรีกโบราณ รวมถึงงานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมในหลายเมืองทั่วอิตาลี ก่อนที่จะกลับฝรั่งเศสเพื่อเริ่มต้นสร้างผลงานและชื่อเสียงในปี 1854
จิตรกรผู้โดดเด่นประจำ Paris Salon
หลังจากกลับมาอยู่ที่กรุงปารีสได้ไม่นานบูเกอโรก็เริ่มส่งผลงานเข้าร่วมในนิทรรศการศิลปะ Paris Salon และประสบความสำเร็จแทบจะทันที ภาพเขียนของเขาได้รับการชื่นชมชื่อเสียงก็เริ่มโด่งดัง การจ้างงานก็มีเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ มีทั้งงานเขียนภาพและงานตกแต่งอาคารสถานที่ บูเกอโรทำงานตกแต่งภายในของโบสถ์, อาคารสาธารณะ และบ้านของเศรษฐีเป็นจำนวนมาก ส่วนการเขียนภาพเขามีผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมาอย่างต่อเนื่องและเข้าร่วมแสดงใน Paris Salon เป็นประจำนานหลายสิบปีจนกระทั่งเสียชีวิตซึ่งมีศิลปินเพียงไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จอย่างยาวนานเช่นเขา
ภาพเขียนของบูเกอโรเป็นสไตล์ศิลปะสถาบันที่ผสมผสานศิลปะแบบนีโอคลาสสิกกับศิลปะแบบโรแมนติกเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ความสามารถที่โดดเด่นของบูเกอโรคือการเขียนภาพผู้หญิงได้อย่างยอดเยี่ยม มีความงดงามทั้งรูปร่าง หน้าตา ทรวดทรง ผิวพรรณ ตลอดจนมือและเท้า เขายังสามารถเพิ่มเสน่ห์และความสวยงามให้กับนางแบบโดยที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ตัวตนของพวกเธอเอาไว้ ดังนั้นองค์ประกอบสำคัญและจุดเด่นในภาพเขียนของเขาจึงมักอยู่ที่ภาพผู้หญิงเสมอ
แม้ว่าบูเกอโรยึดมั่นในสไตล์ศิลปะสถาบันอย่างเหนียวแน่นแต่ผลงานของเขามีความหลากหลายด้วยแนวเรื่องที่นำเสนอ ตั้งแต่ธีมคลาสสิกที่เป็นแนวเรื่องจากตำนานซึ่งเขาได้สร้างผลงานชั้นยอดไว้มากมาย ได้แก่ภาพ The Birth of Venus, Nymphs and Satyr และ A Girl Defending Herself against Eros ภาพเชิงเปรียบเทียบเป็นอีกแนวที่เขาทำได้ดีมีผลงานที่ยอดเยี่ยมอยู่ไม่น้อยอย่างเช่นภาพ Evening Mood และ Innocence เป็นต้น ส่วนในแนวศาสนาเขาก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมเช่นกันโดยเฉพาะภาพของพระแม่มารี เช่น ภาพ The Virgin of the Lilies และ The Virgin with Angels
ในธีมสมัยใหม่บูเกอโรเขียนภาพวิถีชีวิตประจำวันได้อย่างน่าประทับใจ ภาพ Rest at Harvest ของเขาได้รับการชื่นชอบเป็นอย่างมาก แต่แนวภาพที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาอย่างมากและยืนยาวกลับเป็นภาพเหมือนบุคคล บูเกอโรเขียนภาพสาวน้อยในชุดเครื่องแต่งกายแบบชาวบ้านออกมาได้สวยงามน่ารักมีเอกลักษณ์ที่น่าประทับใจมาก ภาพที่ได้รับการยกย่องเป็นพิเศษได้แก่ภาพ The Shepherdess ที่มีอยู่หลายเวอร์ชั่น รวมทั้งภาพ The Bohemian และ Breton Brother and Sister ในขณะเดียวกันภาพนู้ดผู้หญิงของเขาก็โดดเด่นอย่างยิ่ง ตั้งแต่ภาพ Bather (1864) ที่ช็อควงการในช่วงแรกๆจนมาถึงภาพ The Wave ที่ได้กลายเป็นหนึ่งในภาพเขียนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกลำดับต้นๆ
อาจารย์ศิลปะที่มีลูกศิษย์ทั่วทุกมุมโลก
ตั้งแต่ปี 1875 บูเกอโรได้สอนนักเรียนศิลปะที่สถาบัน Académie Julian ซึ่งเป็นโรงเรียนศิลปะเอกชนที่ไม่เพียงเตรียมตัวนักเรียนสำหรับการสอบเข้าสถาบัน École des Beaux-Arts แต่ยังให้โอกาสในการเรียนศิลปะแก่นักเรียนผู้หญิงซึ่งสถาบันหลักไม่รับเข้าเรียนและนักเรียนจากต่างชาติที่มีปัญหาด้านภาษาฝรั่งเศสซึ่งต้องใช้ในการสอบเข้าสถาบันหลัก นอกจากนี้บูเกอโรยังได้ทำในสิ่งที่แตกต่างจากอาจารย์ศิลปะในยุคสมัยนั้นคือให้การสนับสนุนศิลปินผู้หญิงอย่างเต็มที่ เขาอาศัยอิทธิพลส่วนตัวของเขาเปิดสถาบันสอนศิลปะสำหรับผู้หญิงขึ้นหลายแห่งในฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกอีกด้วย
บูเกอโรสอนที่สถาบัน Académie Julian เป็นเวลานานหลายสิบปีมีลูกศิษย์ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจากทั่วโลกเป็นพันคนซึ่งพวกเขาเหล่านั้นได้ไปสร้างผลงานและชื่อเสียงในประเทศตัวเอง ตัวเขาก็ได้รับรางวัลเกียรติยศและการยกย่องจากสถาบันเป็นอย่างสูง นอกจากนี้บูเกอโรยังได้รับเลือกเป็นสมาชิกอันทรงเกียรติของสถาบัน Institut de France รวมทั้งได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์ Legion of Honour ทุกระดับและรางวัลเกียรติยศอีกหลายอย่าง
ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งศิลปะสถาบัน
บูเกอโรเป็นจิตรกรในสไตล์ศิลปะสถาบันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ตลอดช่วงเวลาเกือบ 50 ปีของการทำงานเขาได้รังสรรค์ภาพเขียนที่ยอดเยี่ยมในหลากหลายแนวออกมามากมาย มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทวีปยุโรปและอเมริกา ภาพเขียนของเขาถูกซื้อไปด้วยราคาที่สูงที่สุดเสมอ เขาคือหนึ่งในศิลปินที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 บูเกอโรนับเป็นผู้ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการศิลปะของฝรั่งเศส โดยเฉพาะในคณะกรรมการพิจารณาภาพเขียนที่จะได้ร่วมแสดงในนิทรรศการศิลปะ Paris Salon เขามักปฏิเสธภาพเขียนของศิลปินรุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์ผลงานแปลกใหม่ฉีกแนวไปจากขนบเดิม
เมื่อปี 1863 ภาพ Luncheon on the Grass ของ Édouard Manet ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมแสดงใน Salon พร้อมกับผลงานชั้นดีของศิลปินรุ่นใหม่อีกจำนวนมาก ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และประท้วงกรรมการพิจารณาผลงานของ Salon เรื่องไปเข้าหูจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 จึงให้จัดนิทรรศการ Salon des Refusés เพื่อจัดแสดงภาพเขียนที่ถูกคัดทิ้งจาก Salon และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินผลงานเอง นิทรรศการ Paris Salon เดิมจึงถูกหลายคนเรียกว่า “Salon Bouguereau”
บูเกอโรแต่งงานกับนางแบบสาวสวย Nelly Monchablon ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 5 คน เขาแต่งงานใหม่อีกครั้งกับ Elizabeth Jane Gardner จิตรกรหญิงที่เคยเป็นลูกศิษย์ของเขาหลังจากภรรยาคนแรกเสียชีวิตไปราว 20 ปี บูเกอโรรักการเขียนภาพเป็นชีวิตจิตใจ เขาเขียนภาพตั้งแต่เช้าตรู่จนมืดค่ำ 6 วันต่อสัปดาห์ ตลอดชีวิตเขามีผลงานภาพเขียนมากกว่า 800 ภาพ บูเกอโรเสียชีวิตเมื่อปี 1905 ในวัย 79 ปีที่เมือง La Rochelle บ้านเกิดของเขาซึ่งเขาและครอบครัวมาพักและทำงานเขียนภาพเป็นประจำสลับกับที่บ้านในกรุงปารีส
ผลงานงดงามสมบูรณ์แบบทุกแนว
ภาพเขียนของบูเกอโรเกิดจากลายเส้นที่สวยงามละเอียดอ่อนแบบศิลปะนีโอคลาสสิกผสมผสานกับการลงสีที่พิถีพิถันถูกต้องแม่นยำแบบศิลปะโรแมนติกด้วยฝีมือที่ยอดเยี่ยม ภาพเขียนของเขาไม่ว่าเป็นแนวไหนจะมีความงดงามอย่างสมบูรณ์แบบเสมอ และมีผลงานชั้นยอดที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงเป็นที่นิยมชมชอบอย่างสูงในทุกแนว และต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของผลงานที่ยอดเยี่ยมในหลากหลายแนวของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งศิลปะสถาบันคนนี้
Portrait & Self Portrait
Genre Paintings
Nude Paintings
Allegorical Paintings
Mythological Paintings
Religious Paintings
วิลเลี่ยม-อดอล์ฟ บูเกอโรเป็นศิลปินชั้นนำอีกคนหนึ่งที่ได้ร่วมสร้างสรรค์ศิลปะในยุคนีโอคลาสสิกและมีส่วนทำให้ศิลปะของฝรั่งเศสในช่วงนั้นเจริญรุ่งเรืองเหนือกว่าอิตาลี ภาพเขียนอันมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเขาสร้างชื่อเสียงให้กับบูเกอโรอย่างมากทั้งในฝรั่งเศสและยุโรป รวมทั้งยังโด่งดังไปไกลถึงสหรัฐอเมริกา อีกทั้งเขายังยกระดับของภาพเขียนในสไตล์ศิลปะสถาบันให้ได้รับความนิยมอย่างยาวนาน ด้วยผลงานที่งดงามสมบูรณ์แบบในทุกๆแนวต่อเนื่องยาวนานหลายทศวรรษทำให้บูเกอโรได้รับการยกย่องเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งศิลปะสถาบัน
ข้อมูลและภาพจาก wikipedia, bouguereau.org, artrenewal.org