“เรามีเป้าหมายที่สำคัญมาก นั่นคือการแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถใช้น้ำเป็นเชื้อเพลิงจรวดได้” Peck กล่าว
ดาวเทียมทั้งหมดจะทำจากวัสดุที่หาได้ง่าย รวมทั้งเชื้อเพลิงที่มีราคาถูกที่สุดคือน้ำ CubeSat ประกอบด้วยชิ้นส่วนแบ่งครึ่งเป็นคู่แฝดรูปตัว L สองชิ้น ซึ่งจะแยกออกจากกันและค่อยๆแยกกันมุ่งหน้าไปสู่ชั้นบรรยากาศของดวงจันทร์ คู่แฝดทั้งสองส่วนจะหมุนไปในขณะที่แยกตัวออกจากกันเพื่อให้มีความมั่นคงและรักษาความสมดุล
ด้วยพลังงานจากแสงอาทิตย์ น้ำที่เก็บไว้ในถังด้านล่างของตัว L จะถูกทำให้สลายตัวกลายเป็นก๊าซไฮโดรเจนและก๊าซออกซิเจนเพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิง และเชื้อเพลิงจะขับเคลื่อนดาวเทียมแฝดรูปตัว L เข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์
นอกเหนือจากการใช้น้ำเป็นพลังงานแล้ว ทีมงานยังกำลังทำงานในเรื่องเทคโนโลยีหลักอื่นอีกคือ เครื่องมือสำรวจ กล้องบนยานจะถ่ายภาพของโลก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ เพื่อติดตามตำแหน่งของพวกมันในอวกาศ
นักวิจัยบอกว่ายานอวกาศพลังน้ำไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโลกมากนัก เพราะสามารถเติมเชื้อเพลิงโดยใช้น้ำแข็งที่พบบนดาวเคราะห์น้อย
“ปัจจุบันนี้เราใช้จรวดในการส่งทุกอย่างขึ้นสู่วงโคจร มันเป็นวิธีเดียวที่เราจะส่งอะไรก็ตามขึ้นสู่อวกาศ” Peck กล่าว “ถ้าเราสามารถเติมเชื้อเพลิงยานอวกาศในขณะที่กำลังอยู่ในอวกาศ มันจะหมายถึงว่าเราสามารถไปได้ไกลกว่า อาจจะเร็วขึ้น อาจจะประสบความสำเร็จมากขึ้น และเราจะไม่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงจากโลก”
ทีมของ Peck ที่ใช้ชื่อว่า Cislunar Explorers กำลังแข่งขันภาคพื้นดิน (Ground Tournament) ครั้งที่สามจากทั้งหมดสี่ครั้ง ถ้าหาก CubeSat สามารถติดหนึ่งในสามจากการแข่งขันภาคพื้นดิน มันจะถูกนำไปทดสอบในอวกาศโดยนาซาในปี 2018
ข้อมูลและภาพจาก iflscience, natureworldnews