ตอนแรกพบทุกคนก็เชื่อว่าเป็นวัตถุเก่าแก่โบราณแน่นอนเพียงแต่ไม่แน่ชัดว่าถูกสร้างขึ้นเมื่อไรจึงไม่เป็นที่สนใจมากนัก หลังจากเวลาผ่านไป 100 ปีพร้อมกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น ในช่วงทศวรรษ 1990 ได้มีการนำ Shigir Idol ไปตรวจหาอายุด้วยวิธีคาร์บอนกัมมันตรังสี (Radiocarbon dating) พบว่ามีอายุประมาณ 9,500 ปี ทำให้ Shigir Idol กลายเป็นประติมากรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลกไปในทันที รวมทั้งยังสร้างความพิศวงให้กับนักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมากทั้งในแง่การรักษาสภาพไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมและในแง่รูปแบบของศิลปะที่ซับซ้อนเกินไปสำหรับมนุษย์ในสมัยเมื่อ 10,000 ปีก่อน ปัจจุบัน Shigir Idol จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Sverdlovsk Regional Museum of Local Lore ในเมือง Yekaterinburg ประเทศรัสเซีย
ต่อมาในปี 2018 ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกิททิงเงิน ประเทศเยอรมันและสถาบันโบราณคดีแห่งรัสเซียได้ร่วมกันเริ่มทำการวิจัยตรวจหาอายุของ Shigir Idol ใหม่อีกครั้ง คราวนี้พวกเขาใช้ตัวอย่างที่สกัดจากแกนกลางของชิ้นงานและตรวจหาอายุโดยใช้เครื่องมือ Accelerator Mass Spectrometry (AMS) และยังวิเคราะห์จากลำต้นของต้นไม้ที่ถูกใช้แกะสลักเป็น Shigir Idol ซึ่งเป็นไม้สนชนิดหนึ่งที่มีวงแหวนเจริญเติบโต 159 วง ได้ข้อสรุปว่า Shigir Idol มีอายุประมาณ 12,100 ปีซึ่งมีอายุมากกว่าสโตนเฮนจ์ถึง 7,000 ปี และนั่นหมายถึงว่าประติมากรรมเก่าแก่ที่สุดในโลกชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงสิ้นสุดยุคน้ำแข็งและกำลังเริ่มต้นสมัยโฮโลซีนซึ่งคือยุคปัจจุบันนี่เอง
ทีมวิจัยบอกว่าช่วงเวลาที่ Shigir Idol ถูกแกะสลักขึ้นเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งใหญ่ เป็นช่วงเวลาที่ป่าไม้ในยุคแรกเริ่มแพร่กระจายไปทั่วทวีปยูเรเชีย (ผืนแผ่นดินใหญ่ที่รวมเอาทวีปยุโรปและเอเชียทั้งมวลเข้าด้วยกัน) ภูมิทัศน์เปลี่ยนไปมากและศิลปะซึ่งหมายรวมถึงการออกแบบที่เป็นรูปมนุษย์และสัตว์ตามธรรมชาติที่วาดในถ้ำและการแกะสลักในหิน อาจเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้คนได้รับมือกับสภาพแวดล้อมใหม่ที่ท้าทายซึ่งพวกเขาพบเจอ
แม้ว่านักวิจัยจะไม่สามารถทราบได้อย่างชัดเจนว่า Shigir Idol ถูกใช้เพื่ออะไร แต่การมีอยู่ของมันนั้นบ่งบอกถึงความชื่นชมในงานศิลปะและงานฝีมือ ผู้คนที่สร้างมันดูเหมือนจะมีความชื่นชมในสัญลักษณ์ที่ในอดีตผู้เชี่ยวชาญคิดว่าเกิดขึ้นภายหลังยุคนี้อีกนาน คนที่สร้าง Shigir Idol มีทักษะในการขึ้นรูปและแกะสลักไม้เป็นอย่างดี นักวิจัยยืนยันว่ารูปแกะสลักดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงมนุษย์ในสังคมคนเก็บของป่าล่าสัตว์ที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาอูรัลในช่วงยุคเมโซลิทิกมีความคิดทางจิตวิญญาณที่ซับซ้อนและชิ้นงานศิลปะของพวกเขาเหลือรอดจากการทำลายล้างของกาลเวลาน้อยมาก
ยังมีพรุแบบเดียวกันนี้อีกจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วเทือกเขาอูรัลซึ่งบางแห่งก็อาจมีสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากไม้เมื่อหลายพันปีก่อน แต่ส่วนใหญ่ยังคงไม่มีการสำรวจและการสำรวจขุดค้นมีราคาแพงและใช้เวลานาน ดังนั้นถ้าหากยังมีงานศิลปะหรือความลับใดหลงเหลืออยู่ในส่วนลึกที่มืดมิดของพรุเหล่านี้ก็คงเป็นเรื่องยากมากที่จะพบเจอ
ข้อมูลและภาพจาก sciencealert, dailymail.co.uk