“พืชใช้แสงบางช่วงความยาวคลื่นเท่านั้นในการสังเคราะห์แสงและแนวคิดก็คือการสร้างโรงเรือนเพาะปลูกที่สร้างพลังงานได้เองจากแสงที่ไม่ได้ใช้นั้นในขณะที่ปล่อยให้แสงที่พืชใช้สังเคราะห์แสงผ่านไปได้” Brendan O’Connor หนึ่งในทีมวิจัยกล่าว “เราสามารถทำได้สิ่งนี้โดยใช้โซลาร์เซลล์ชนิดสารอินทรีย์เพราะมันสามารถปรับสเปกตรัมของแสงที่ดูดซับได้ ดังนั้นเราสามารถเลือกเอาเฉพาะความยาวคลื่นที่พืชไม่ได้ใช้มาผลิตไฟฟ้า”
ทีมวิจัยทำการทดลองเพื่อตรวจสอบหาผลกระทบที่มีต่อพืชโดยทดลองกับแปลงผักกาดหอมใบแดง แบ่งแปลงผักกาดหอมใบแดงเป็นหลายกลุ่มแต่ละกลุ่มได้รับแสงอาทิตย์ในย่านความยาวคลื่นแตกต่างกันแต่ทุกกลุ่มรักษาตัวแปรอื่นๆให้เหมือนกันหมดซึ่งรวมทั้งอุณหภูมิ, ความเข้มข้นของ CO2, การให้น้ำและปุ๋ย กลุ่มควบคุมได้รับแสงอาทิตย์เต็มทุกย่านสเปกตรัม ส่วนกลุ่มอื่นจำลองการดูดกลืนแสงของโซลาร์เซลล์ ST-OSCs โดยใช้แผ่นกรองแสงที่มีอัตราส่วนของแสงสีน้ำเงินต่อแสงสีแดงแตกต่างกันไป
ทีมวิจัยพบว่าผักกาดหอมที่ปลูกภายใต้เซลล์แสงอาทิตย์มีสุขภาพและการเจริญเติบโตไม่แตกต่างจากผักกาดหอมที่ปลูกภายใต้แสงอาทิตย์โดยตรง พวกเขาไม่พบความแตกต่างในการวัดค่าสำคัญใดๆเลย รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ, การดูดซึม CO2, ขนาด และน้ำหนัก และยังได้โบนัสเพิ่มจากการที่โซลาร์เซลล์ยังช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าแนวคิดในการนำโซลาร์เซลล์ชนิดโปร่งใสมาใช้กับโรงเรือนเพาะปลูกสามารถดำเนินการได้
แต่อย่างไรก็ตามโซลาร์เซลล์ ST-OSCs ยังมีประสิทธิภาพไม่สูงเทียบเท่ากับโซลาร์เซลล์แบบโฟโตโวลตาอิก (PV) ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน แต่นักวิจัยก็กำลังพยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของมันอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงการประยุกต์ใช้งานที่หลากหลายของโซลาร์เซลล์ ST-OSCs ที่อาจจะได้พบเห็นในอนาคต เช่น ใช้ทำหน้าต่าง เป็นต้น สำหรับการนำโซลาร์เซลล์ ST-OSCs ไปใช้กับโรงเรือนเพาะปลูกยังคงจำเป็นต้องทดสอบผลกระทบกับพืชชนิดอื่นๆเพิ่มเติมต่อไปอีก แต่ผลการวิจัยในครั้งแรกนี้ได้สร้างความหวังและพิสูจน์ในเบื้องต้นว่าเทคโนโลยีนี้เป็นไปได้ในหลักการ จากนี้คงเป็นเรื่องของบริษัทผู้ผลิตที่จะได้นำไปพัฒนาและขยายขนาดในเชิงพาณิชย์ต่อไป
ข้อมูลและภาพจาก ncsu.edu, intelligentliving