1. เมฆจานบิน Lenticular Clouds, Japan
เมฆลักษณะพิเศษรูปทรงเลนส์หรือจานรองนี้เป็นเมฆที่ลอยนิ่งเกิดขึ้นในบรรยากาศชั้นล่างสุดหรือโทรโพสเฟียร์ ส่วนใหญ่มักเกิดตามยอดภูเขาสูง เมื่ออากาศชื้นและคงที่ไหลปะทะภูเขาเกิดเป็นกระแสวน คลื่นนิ่งขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นที่ด้านใต้ลมของภูเขา หากอุณหภูมิที่ยอดคลื่นลดลงต่ำกว่าจุดน้ำค้าง ความชื้นในอากาศอาจควบแน่นจนเกิดเป็นก้อนเมฆรูปจานรอง และภายใต้เงื่อนไขบางประการอาจมีการก่อตัวก้อนเมฆรูปจานซ้อนกันหลายชั้น อันนำมาซึ่งภาพสุดประทับใจเหนือภูเขาฟูจิในประเทศญี่ปุ่น เมฆจานบินมักถูกผู้คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นจานบินหรือ UFO
2. หาดเรืองแสง Bioluminescent Shore, Maldives
กลางคืนบนเกาะวาดูของมัลดีฟส์ น้ำทะเลที่นั่นสามารถเรืองแสงดูคล้ายดวงดาวสีน้ำเงินที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง มีแพลงก์ตอนหลายประเภทที่จะเรืองแสงหรือผลิตแสงเมื่อเป็นทุกข์รู้สึกไม่ปลอดภัย อันเป็นกลไกป้องกันตัวที่ไม่เพียงแต่จะทำให้นักล่าแพลงก์ตอนประหลาดใจหรือสับสนเท่านั้น แต่ยังดึงดูดศัตรูของนักล่าให้เข้ามาหาด้วย แสงเรืองถูกผลิตขึ้นโดยสารลูซิเฟอรินซึ่งแพลงก์ตอนบางชนิดสามารถผลิตลูซิเฟอรินได้เอง มัลดีฟส์ไม่ใช่ที่เดียวที่เกิดปรากฏการณ์นี้แต่ได้รับการยอมรับว่าที่นี่สวยงามที่สุด
3. ทะเลสาบอัญมณี Turquoise Ice Crystals, Russia
แม่น้ำ 330 สายไหลลงสู่ทะเลสาบกว้างใหญ่กินพื้นที่กว่า 31,000 ตารางกิโลเมตรในรัสเซียนามว่าทะเลสาบไบคาล ทะเลสาบแห่งนี้ยังมีความลึกมากที่สุดในโลกที่กว่า 1,600 เมตร ในฤดูหนาวเมื่ออุณหภูมิลดลงถึง -38 องศาเซลเซียส น้ำในทะเลสาบที่ใสราวคริสตัลจะก่อตัวเป็นน้ำแข็งใสราวกับอัญมณีที่ส่องแสงระยิบระยับ ก้อนน้ำแข็งใสขนาดมหึมาเหล่านี้เปล่งประกายราวกับ “เทอร์คอยซ์” อัญมณีที่มีสีฟ้าอมเขียวในยามแสงแดดส่องกระทบพวกมัน อุณหภูมิเยือกแข็งประกอบกับลมที่พัดแรงสามารถสร้างก้อนอัญมณีน้ำแข็งขนาดใหญ่ได้ถึง 15 เมตร เปลี่ยนพื้นผิวทะเลสาบให้กลายเป็นดินแดนเยือกแข็งที่สุดมหัศจรรย์
4. สายรุ้งไฟ Circumhorizontal arc, America
มักถูกเรียกว่า “Fire Rainbow” หรือสายรุ้งไฟ แม้ว่าจะดูเหมือนรุ้ง แต่ก็ไม่ใช่รุ้ง และไม่เกี่ยวอะไรกับไฟ รวมทั้งไม่ใช่อาทิตย์ทรงกลดหรือเมฆสีรุ้งด้วย มันคือปรากฏการณ์ทางแสงที่เกิดจากการหักเหของแสงอาทิตย์หรือแสงจันทร์ในผลึกน้ำแข็งรูปจานที่ลอยอยู่ในบรรยากาศ โดยทั่วไปจะอยู่ในเมฆเซอร์รัสหรือเมฆเซอร์โรสตราตัส ในรูปแบบที่สมบูรณ์สายรุ้งไฟมีลักษณะเป็นแถบสีสเปกตรัมสว่างขนาดใหญ่ (สีแดงเป็นสีบนสุด) วิ่งขนานไปกับเส้นขอบฟ้าที่ระดับต่ำกว่าดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์มาก แต่ส่วนใหญ่จะมองเห็นเพียงเศษเสี้ยวของส่วนโค้งเท่านั้น ส่วนลักษณะที่เห็นเป็น “เปลวเพลิงสีรุ้ง” นั้นอาจปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราว เมื่อมันเกิดขึ้นในเมฆเซอร์รัสที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
5. ทะเลสาบลายจุด Spotted lake, Canada
ในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิทะเลสาบที่ตั้งอยู่ที่ใจกลางหุบเขา Okanagan Valley ของรัฐบริติชโคลัมเบีย แคนาดามีลักษณะเหมือนแหล่งน้ำอื่นๆ แต่เมื่อน้ำส่วนใหญ่เริ่มระเหยในฤดูร้อนและทำให้ระดับพื้นผิวลดต่ำลง แอ่งน้ำเค็มวงกลมขนาดใหญ่หลายร้อยแอ่งซึ่งอยู่ใต้ผิวน้ำและมองไม่เห็นก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยเฉดสีเหลือง น้ำเงิน และเขียว กลายเป็นทะเลสาบลายจุดหลากสีที่สวยงามแปลกตา ทะเลสาบแห่งนี้ไม่มีแม่น้ำและลำธารระบายน้ำออก พอหิมะละลายและไหลลงสู่ทะเลสาบก็นำแร่ธาตุและเกลือมาสะสมไว้เป็นเวลาหลายศตวรรษ เมื่อน้ำในทะเลสาบระเหยไป แอ่งน้ำที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและเกลือจุดต่างๆก็จะปรากฏเป็นเฉดสีที่ผันผวนสวยงามตามองค์ประกอบแร่ธาตุของแต่ละแอ่ง
6. ภูเขาน้ำแข็งลายทาง Striped Icebergs, Antarctica
ภูเขาน้ำแข็งเป็นเศษน้ำแข็งขนาดมหึมาที่แตกออกจากธารน้ำแข็งซึ่งเกิดจากการทับถมอัดแน่นของหิมะเมื่อขอบด้านหน้าของธารน้ำแข็งมาบรรจบกับทะเล ภูเขาน้ำแข็งส่วนใหญ่มองเห็นเป็นสีขาวเนื่องจากมีหิมะปกคลุมอยู่ หากเอาเปลือกหิมะด้านนอกออกไปข้างในจะเห็นเป็นสีฟ้าตามธรรมชาติของการหักเหแสง ภูเขาน้ำแข็งที่ถูกกัดเซาะด้วยลมและคลื่นจะเกิดร่องเป็นลายทางสีฟ้าที่สวยงาม แต่ที่แอนตาร์กติกามีภูเขาน้ำแข็งที่เกิดจากธารน้ำแข็งที่ก่อตัวจากน้ำทะเลที่เย็นจัด สารเคมีและซากพืชซากสัตว์ที่ปะปนในน้ำทะเลบางอย่างทำให้เกิดสีต่างๆได้ จึงสามารถพบเห็นภูเขาน้ำแข็งลายทางหลายรูปแบบหลากสีสัน มีทั้งสีฟ้า เขียว เหลือง น้ำตาล และดำที่สวยงามน่าชมอย่างยิ่ง
7. เสาแสง Light Pillars, Canada
เสาไฟเป็นปรากฏการณ์ทางแสงในบรรยากาศเกิดจากผลึกน้ำแข็งขนาดเล็กรูปแผ่นหกเหลี่ยมที่ลอยอยู่ในบรรยากาศทำหน้าที่เหมือนกระจกเล็กๆสะท้อนแสงจากแหล่งกำเนิดแสงเกิดเป็นลำแสงแนวตั้ง แหล่งกำเนิดแสงอาจเป็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือแหล่งกำเนิดแสงใกล้พื้นดิน เช่น ไฟถนน เนื่องจากมีผลึกน้ำแข็งนับล้านที่ลอยอยู่ในอากาศลำแสงสะท้อนจึงขยายเป็นเสาแสงสูงตระหง่านสว่างไสวกลายเป็นภาพที่สวยงามน่า ทึ่ง เสาแสงมักเกิดขึ้นให้เห็นในยามค่ำคืนที่หนาวเย็นในสถานที่ที่มีเงื่อนไขเหมาะสม รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดาเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เกิดเสาแสงที่สวยงามมากๆ
8. รุ้งแสงจันทร์ Moonbow, Hawaii
รุ้งแสงจันทร์เกิดขึ้นแบบเดียวกับรุ้งกินน้ำแต่เกิดขึ้นในเวลากลางคืนและใช้แสงสะท้อนจากดวงจันทร์แทนแสงอาทิตย์โดยตรงในการหักเหแสงเพื่อให้เกิดแถบสีรุ้ง แต่เนื่องจากแสงจันทร์สว่างน้อยกว่าแสงอาทิตย์มากแถบสีรุ้งจึงอ่อนจากจนตาของมนุษย์ยากจะแยกแยะสีออกได้ จึงมักมองเห็นเป็นแถบสีขาว รุ้งแสงจันทร์อาจเกิดขึ้นได้ในขณะที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนจะต้องมืดมาก จะต้องมีฝนที่ตกตรงข้ามกับดวงจันทร์ที่สว่างมากอยู่ข้างหลังและต้องอยู่ในระดับต่ำ ช่วงเวลามีโอกาสได้เห็นรุ้งแสงจันทร์มากที่สุดคือสองสามชั่วโมงหลังอาทิตย์ตกดินหรือก่อนอาทิตย์ขึ้น มีสถานที่หลายแห่งที่รุ้งแสงจันทร์เกิดขึ้นบ่อยๆ เกาะฮาวายมีชื่อเสียงมากในเรื่องนี้
9. ทุ่งดอกไม้น้ำแข็ง Frost Flowers, Antarctica
ดอกไม้น้ำแข็งก่อตัวขึ้นบนพื้นผิวมหาสมุทรที่เย็นจัดจนกลายเป็นแผ่นน้ำแข็งภายใต้เงื่อนไขเฉพาะเท่านั้น ดอกไม้น้ำแข็งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในอากาศที่นิ่งและแห้ง ปัจจัยหลักคืออากาศที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าน้ำที่อยู่ใต้แผ่นน้ำแข็งมากๆ (ไม่น้อยกว่า 20 °C) ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นน้ำแข็งจะระเหิดกลายเป็นไอในอากาศแห้ง แล้วกลับกลายเป็นน้ำแข็งอีกครั้งในรูปของดอกไม้ที่เย็นยะเยือก แต่พบว่าดอกไม้น้ำแข็งจะก่อตัวขึ้นเฉพาะบนแผ่นน้ำแข็งที่บางและเกิดขึ้นใหม่ๆเท่านั้น เมื่อเงื่อนไขเหมาะสมดอกไม้น้ำแข็งนับพันนับหมื่นดอกจะเบ่งบานกลายเป็นทุ่งดอกไม้สีขาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สวยงามแต่หาดูได้ยากมาก
10. กิ้งโครงเริงระบำ Sort Sol, Denmark
ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงระหว่างการอพยพขึ้นมาผสมพันธุ์กับหนีหนาวลงไปทางใต้ นกกิ้งโครงจำนวนมากจะรวมตัวกันในที่ลุ่มทางตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรจัตแลนด์ ประเทศเดนมาร์ก หลังดวงอาทิตย์ตกใหม่ๆจะเกิดปรากฏการณ์ที่คนพื้นเมืองเรียกว่า Sort Sol ที่หมายถึงอาทิตย์สีดำ (Black Sun) เมื่อฝูงนกกิ้งโครงบินมารวมตัวกันเป็นฝูงใหญ่มากจำนวนหลายแสนตัว บางครั้งอาจมีมากเป็นล้านตัว ฝูงนกขนาดมหึมาเห็นดำมืดบนท้องฟ้าบินเคลื่อนไหวไปมาประหนึ่งกำลังเต้นรำหรือบัลเล่ต์ ก่อนที่พวกมันจะตัดสินใจหาสถานที่ที่พักค้างคืน ภาพฝูงนกกิ้งโครงเริงระบำยามย่ำค่ำก่อตัวเป็นรูปร่างต่างๆนับเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่ง
ข้อมูลและภาพจาก pickyourtrail, thrillophilia, treehugger