นอกจากจะมีความเสี่ยงต่อการตายก่อนกำหนดต่ำกว่าแล้ว นักวิจัยพบว่าการดื่มกาแฟยังลดความเสี่ยงต่อการตายจากโรคในระบบย่อยอาหารและระบบหมุนเวียนโลหิต และสำหรับผู้ชายการดื่มกาแฟมากยังมีผลต่อการลดความเสี่ยงของการฆ่าตัวตายอีกด้วย
งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งเป็นการติดตามกิจวัตรด้านอาหารและสุขภาพของชาวอเมริกัน 185,855 คนเป็นเวลากว่า 16 ปี และพบว่าการดื่มกาแฟลดความเสี่ยงจากการตายด้วยโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหลอดเลือดในสมอง โรคเบาหวาน และโรคไต คล้ายกับงานวิจัยชิ้นแรก
ผลวิจัยพบว่าคนที่ดื่มกาแฟ 2 – 3 แก้วต่อวันมีแนวโน้มตายก่อนกำหนดน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟ 18% ส่วนคนที่ดื่มกาแฟ 1 แก้วต่อวันมีแนวโน้มตายก่อนกำหนดน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟ 12%
งานวิจัยชิ้นที่สองมีความน่าสนใจเป็นพิเศษเพราะเป็นการศึกษาชาวอเมริกันที่มีหลายชาติพันธุ์ ทั้งคนผิวดำ ผิวขาว ทั้งเชื้อสายลาติน เชื้อสายญี่ปุ่น รวมทั้งเชื้อสายฮาวาย งานวิจัยส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้ในเรื่องผลของการดื่มกาแฟต่อการมีอายุยืนจะเน้นไปที่คนเชื้อสายยุโรป
อย่างไรก็ตามงานวิจัยดังกล่าวเป็นเพียงการสังเกตการณ์ ไม่ได้ลงลึกถึงสาเหตุและผลกระทบ ไม่มีใครสามารถระบุได้ว่าการดื่มกาแฟมากจะทำให้อายุยืนได้อย่างแน่นอน แต่ก็ยังน่าสนใจที่แม้ว่านักวิจัยจะพยายามควบคุมปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น เรื่องอาหาร ความอ้วน หรือการสูบบุหรี่ แล้วก็ตาม ผลที่ได้ยังเป็นว่าคนที่ดื่มกาแฟจะมีสุขภาพดีกว่า
และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักวิจัยชี้ว่ากาแฟอาจมีส่วนช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ในงานวิจัยทั้งสองชิ้นนักวิจัยได้บอกว่างานวิจัยก่อนหน้านี้พบว่าการดื่มกาแฟมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของตับ ระดับน้ำตาลในเลือด และการอักเสบ
และเนื่องจากว่าการดื่มกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนก็ให้ผลในเรื่องการมีอายุยืนเช่นเดียวกัน ดังนั้นคาเฟอีนจึงไม่น่าจะเป็นสาเหตุของข้อดีของกาแฟในประเด็นนี้ นักวิจัยกลุ่มหนึ่งคิดว่ามันอาจจะมาจากสารอื่นที่ถูกดึงออกมาในขั้นตอนการเตรียมเครื่องดื่มชนิดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อโพลีฟีนอล
ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าอะไรที่เป็นสาเหตุที่ทำให้การดื่มกาแฟช่วยให้เราอายุยืน แต่ผลวิจัยใหม่นี้ชี้ว่าเราควรจะเลิกกลัวการดื่มกาแฟได้แล้ว นักวิจัยบอกว่าการดื่มกาแฟแบบไม่บันยะบันยังมันไม่ดีแน่ แต่ถ้าดื่มไม่เกินวันละ 3 แก้วก็ดื่มได้เลยไม่ต้องกังวล
ข้อมูลและภาพจาก sciencealert, alive