นอกจากการทยอยปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินตามกำหนดแล้ว รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยังต้องกำหนด “carbon floor price” ที่เป็นการกำหนดราคาเชื้อเพลิงตามปริมาณการปล่อยคาร์บอน เพื่อควบคุมไม่ให้ถ่านหินมีราคาถูกจนบริษัทต่างๆนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น
“นี่เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อตลาดไฟฟ้าว่าไม่มีการลงทุนในโรงไฟฟ้าถ่านหินในยุโรปที่ปลอดภัยอีกต่อไป” Gerard Wynn ที่ปรึกษาด้านการเงินของสถาบันวิเคราะห์พลังงาน IEEFA กล่าว “การประกาศในครั้งนี้เน้นย้ำถึงความเสี่ยงของการลงทุนในโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งเก่าและใหม่ และบทเรียนนี้เห็นได้ชัดว่าแผนการทยอยปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินร่วมกับการผุดขึ้นมาของพลังงานหมุนเวียนและผลกระทบจากความต้องการให้เพิ่มประสิทธิภาพผลักดันให้การผลิตไฟฟ้าแบบเก่าตั้งอยู่บนความเสี่ยง”
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาสำนักประเมินผลสิ่งแวดล้อมของเนเธอร์แลนด์ (NEAA) ได้เปิดเผยว่าการปล่อยคาร์บอนของทั้งโลกไม่มีการเปลี่ยนแปลงในปี 2016 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าโลกเริ่มจะป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ดีขึ้น แต่เนเธอร์แลนด์ต้องการทำให้ดีกว่านั้นโดยการตั้งเป้าหมายใหม่ของการลดการปล่อยคาร์บอนระหว่างปี 1990 – 2030 เป็น 49% การปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมดจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึงปีละ 12 ล้านตัน และเนเธอร์แลนด์ยังหวังที่จะผลักดันเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนของสหภาพยุโรปให้เพิ่มจาก 40% เป็น 55% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ข้อมูลและภาพจาก climatechangenews, energetskiportal