ชาวโรมันก่อตั้ง “Londinium” ซึ่งปัจจุบันเรียก London เมื่อ 43 ปีก่อนคริสต์ศักราช ภาพเขียน Londinium เมื่อ 200 ปีก่อนคริสต์ศักราชเห็นสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์แห่งแรก
จากศตวรรษที่ 7 ถึง 11 ชาวแองโกล-แซกซัน (Anglo-Saxons) ย้ายมาอยู่ที่ Londinium การตั้งถิ่นฐานของพวกเขาได้มีการวางผังเป็นรูปแบบตารางและใหญ่ขึ้น มีประชากรระหว่าง 10,000 ถึง 12,000 คน
วิหารเวสต์มินสเตอร์ (Westminster Abbey) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 เป็นมรดกโลกและเป็นอาคารที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดของลอนดอน ด้านล่างเป็นภาพเขียนเมื่อปี 1749 พระเจ้าวิลเลียมที่ 1 อดีตดยุกแห่งนอร์ม็องดี เสด็จขึ้นครองราชบัลลังก์อังกฤษในวันคริสต์มาสปี 1066 หลังจากสร้างวิหารเสร็จเพียงไม่นาน
ในศตวรรษที่ 11 ลอนดอนมีที่เรือที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ
ในศตวรรษที่ 12 ศาลหลวงอังกฤษเติบโตขึ้นทั้งขนาดและความซับซ้อน และได้ตั้งอยู่ในวิหารเวสต์มินสเตอร์ใจกลางกรุงลอนดอน
ปี 1176 พระเจ้าเฮนรีที่ 2 สั่งให้สร้างสะพานหินแห่งใหม่ซึ่งเสร็จในปี 1284 เป็นต้นฉบับของ “London Bridge” ที่มีอายุยืนยาวถึง 600 ปี มีบ้านและร้านค้าตั้งอยู่บนสะพานที่มีโครงสร้างโค้งสวยงามรองรับน้ำหนักทุกอย่างเอาไว้
ระหว่างปี 1536 และ 1541 พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ได้ยึดครองวัดวาอาราม 800 แห่งซึ่งเป็นเจ้าของกิจการร้านค้าและการเกษตรจำนวนมากในอังกฤษ นักประวัติศาสตร์บางคนบอกว่าการดำเนินการของพระองค์เป็นหนึ่งในการเปลี่ยนมือเจ้าของที่ดินครั้งใหญ่ที่สุดในลอนดอน โดยมีวัตถุประสงค์อยู่ที่ความมั่งคั่งและอำนาจ
พัฒนาการของแท่นพิมพ์ในต้นศตวรรษที่ 15 ทำให้ข่าวสารเข้าถึงทั่วทั้งเมืองและได้ปรับปรุงความสามารถในการอ่านและเขียนให้ดีขึ้น ร้านกาแฟกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับพูดคุยถกเถียงกันแบบเป็นกันเอง
ในศตวรรษที่ 17 ลอนดอนเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ที่ได้คร่าชีวิตผู้คนไปราว 100,000 คน ปี 1666 เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในลอนดอน ทำให้ต้องใช้เวลานับทศวรรษในการสร้างเมืองขึ้นใหม่
ลอนดอนกลายเป็นศูนย์รวมของการค้าตลอดศตวรรษที่ 17 และท่าเรือลอนดอนก็ขยายตามไปด้วย
ในยุคพระเจ้าจอร์จ (ที่ 1 – 4) จากปี 1714 ถึง 1830 เขตใหม่อย่างเช่น Mayfair ได้เกิดขึ้น และสะพานใหม่เหนือแม่น้ำเทมส์ได้ช่วยส่งเสริมความเจริญในลอนดอนใต้
ตอนกลางศตวรรษที่ 19 ลอนดอนไล่แซงอัมสเตอร์ดัมเป็นผู้นำศูนย์กลางทางการเงิน
และราชนาวีอังกฤษก็กลายเป็นกองทัพทหารชั้นนำของโลก
ลอนดอนเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกระหว่างปี 1831 ถึง 1925 ก่อนที่จะถูกนิวยอร์กแซงหน้าไป
การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรและการจราจรนำไปสู่การก่อสร้างระบบรถไฟใต้ดินแห่งแรกของโลกในปลายทศวรรษ 1860
พระเจ้าจอร์จที่ 6 เริ่มรัชสมัยของพระองค์ในปี 1936 ด้านล่างเป็นภาพถ่ายพระบรมวงศานุวงศ์เมื่อปี 1939 ที่มีพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ขณะมีพระชนมายุ 13 พรรษารวมอยู่ด้วย
สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มทำลายล้างลอนดอนตั้งแต่ปี 1941 ประชาชนต้องซ่อนตัวอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อหลบหลีกการโจมตีทางอากาศซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปราว 30,000 คนเมื่อสงครามจบลง
เริ่มตั้งแต่กลางทศวรรษ 1960 ลอนดอนกลายเป็นศูนย์กลางของโลกทางด้านแฟชั่น ดนตรี และศิลปะ
เมืองนี้ยังคงสถานะความเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจของโลกเอาไว้
และในทุกวันนี้มีคนมากกว่า 8.6 ล้านคนพักอาศัยอยู่ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผู้คนทั้งโลกอยากไปเยี่ยมชม …นี่คือมหานครลอนดอน
ข้อมูลและภาพจาก businessinsider