สำหรับฮอนด้าที่เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าช้ากว่าค่ายอื่นเพราะมัวไปสนใจกับการพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน แต่ตอนนี้ได้เดินหน้าสู่ตลาดนี้เต็มตัวแล้ว พวกเขาเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นที่จะวางตลาดในปี 2018 ถึงจะออกตัวช้ากว่าโตโยต้าและนิสสัน แต่เชื่อว่าฮอนด้าไม่ยอมน้อยหน้าค่ายไหนเป็นแน่
เมื่อก้าวเข้ามาในตลาดที่ค่ายรถอื่นๆต่างมีรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองกันหมดแล้ว ฮอนด้าจึงดูเหมือนจะตั้งใจทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองโดดเด่นกว่าค่ายอื่น เมื่อช่วงต้นปีนี้ฮอนด้าได้ประกาศว่าทีมวิจัยของพวกเขากำลังพัฒนาระบบชาร์จไฟขณะรถกำลังวิ่งด้วยความเร็ว 150 กม./ชม. ซึ่งนั่นหมายถึงว่ารถสามารถวิ่งไปได้ตลอดไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะทางหรือไม่ต้องหยุดชาร์จไฟ และตอนนี้ฮอนด้ากำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟเต็มในเวลาเพียง 15 นาที
ฮอนด้าวางแผนที่จะเริ่มสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ในปี 2022 โดยรถรุ่นนี้กำหนดวิ่งได้ไกล 240 กม.ต่อการชาร์จไฟ 15 นาที ซึ่งถือว่าดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปัจจุบัน อย่างเครือข่ายชาร์จไฟความเร็วสูงของ Tesla สามารถชาร์จไฟได้ 80% ในเวลา 20 – 40 นาที ขณะที่การชาร์จไฟจนเต็มของรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปต้องใช้เวลา 3 – 4 ชม. ยิ่งถ้าเป็นจุดชาร์จไฟแบบธรรมดาอาจต้องใช้ถึง 6 – 8 ชม.เลยทีเดียว
อุปกรณ์ชาร์จไฟความเร็วสูงในญี่ปุ่นปัจจุบันเป็นขนาด 150 kW แต่มีแผนที่จะปรับเป็นขนาด 350 kW เริ่มตั้งแต่ปี 2020 ส่วนในยุโรปก็คาดว่าจะมีเครือข่ายสถานีชาร์จไฟขนาด 350 kW หลายพันแห่งในปี 2020 เช่นกัน ดังนั้นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของฮอนด้าจึงจะได้ใช้ข้อได้เปรียบในเรื่องสถานีชาร์จไฟความเร็วสูงที่กำลังจะอัพเกรดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การชาร์จไฟเร็วขึ้น
ค่ายนิสสันกำลังจะส่งรถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf 2018 ใหม่ออกสู่ตลาดซึ่งก็จะชาร์จไฟได้เร็วกว่ารุ่นปัจจุบันและยังวิ่งได้ไกลขึ้น 30% หรือมากกว่า 500 กม.ต่อการชาร์จไฟครั้งหนึ่ง นิสสันนำหน้าคู่แข่งจากญี่ปุ่นด้วยกันทั้งโตโยต้าและฮอนด้าไปไกลแล้ว แต่ถึงตอนนี้ฮอนด้าคงไม่ละความพยายามที่จะตามให้ทันและแซงหน้าให้ได้
ข้อมูลและภาพจาก futurism, nikkei