ปี 2016 การสแกนเรดาร์ที่ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีเรดาร์ชาวญี่ปุ่นพบหลักฐานสนับสนุนการคงอยู่ของห้องลับตามทฤษฎีของรีฟส์ เรื่องนี้จึงถูกกระตุ้นให้เกิดความตื่นเต้นและความสนใจในวงกว้าง ทางการอียิปต์ลุ้นมากที่จะให้เรื่องนี้เป็นจริง เพราะมันจะมีส่วนช่วยให้การท่องเที่ยวของอียิปต์ที่กำลังซบเซาอย่างหนักจะได้กระเตื้องขึ้นมาได้บ้าง
ต่อมาในปีเดียวกันทีมวิจัยอีกทีมหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิกได้ดำเนินการสแกนเรดาร์เพื่อยืนยันข้อสงสัย แล้วพบว่าไม่มีห้องลับใดๆซ่อนอยู่เบื้องหลังกำแพง อย่างไรก็ตามกระทรวงโบราณวัตถุของอียิปต์ได้ปฏิเสธที่จะยอมรับผลการสแกนครั้งนั้น โดยบอกว่ามีแผนที่จะทดสอบเพิ่มเติมเพื่อค้นหาหลุมฝังศพต่อไป
Franco Porcelli ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคตูริน ผู้ทำการสแกนครั้งล่าสุดได้รายงานเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2018 ในที่ประชุมนานาชาติที่กรุงไคโรว่าทีมงานของเขามีข้อสรุปที่มั่นใจอย่างสูงว่าสมมุติฐานเรื่องการดำรงอยู่ของห้องลับที่อยู่ติดกับห้องฝังศพตุตันคาเมนไม่ได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลที่ได้ทำการสแกนด้วยเครื่อง GPR (Ground-penetrating radar)
“งานของเราได้แสดงให้เห็นว่าไม่มีห้องลับที่ซ่อนอยู่ ไม่มีทางระเบียงที่ติดกับหลุมฝังศพตุตันคาเมน” Porcelli กล่าว “อย่างที่พวกคุณรู้กันว่ามีทฤษฎีที่บอกว่าเป็นไปได้ที่มีห้องเหล่านี้ แต่น่าเสียดายที่ผลงานของเราไม่สนับสนุนทฤษฎีนี้”
กระทรวงโบราณวัตถุของอียิปต์ได้ทยอยขนย้ายข้าวของของกษัตริย์ตุตันคาเมนไปยังพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่นอกกรุงไคโรใกล้กับมหาพีระมิดแห่งกีซาเพื่อทำการบูรณะก่อนที่จะเปิดการแสดง การเคลื่อนย้ายสมบัติล้ำค่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องระมัดระวังกันอย่างมาก ในปี 2014 เคราที่ติดกับหน้ากากทองคำของกษัตริย์อียิปต์โบราณถูกกระแทกจนหลุดออกมา ต้องรีบใช้กาวอีพ็อกซี่ติดกลับเข้าไปใหม่ ทำเอานักโบราณคดีโวยวายกันยกใหญ่
ระหว่างการประชุม Khaled al-Anani รัฐมนตรีกระทรวงโบราณวัตถุของอียิปต์บอกว่าพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่เฟสแรกที่มีห้องตุตันคาเมนด้วยนั้นจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะเปิดให้ชมเมื่อไหร่ พิพิธภัณฑ์ใหม่มีสิ่งของวัตถุโบราณ 43,200 ชิ้น เป็นของตุตันคาเมนคนเดียวถึง 4,500 ชิ้น มีแผนที่จะเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2022
ข้อมูลและภาพจาก news, nationalgeographic