งานวิจัยล่าสุดที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ ได้ทำแบบจำลองศึกษาผลกระทบกรณีติดตั้งโซลาร์ฟาร์มและฟาร์มกังหันลมคลุมเต็มพื้นที่ทะเลทรายซาฮาราและเขตซาเฮลที่เป็นบริเวณกึ่งทะเลทรายทางตอนใต้ของซาฮารา ผลที่ได้จากแบบจำลองน่าทึ่งมาก นอกจากจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 4 เท่าของปริมาณที่ใช้กันทั่วโลกในทุกปีแล้ว มันยังทำให้เกิดฝนตกในบริเวณทะเลทรายซาฮาราเพิ่มขึ้นอย่างมาก และทำให้มีพืชผักเพิ่มมากขึ้นด้วย
“แบบจำลองของเราให้ผลว่าโซลาร์ฟาร์มและฟาร์มกังหันลมขนาดใหญ่ในทะเลทรายซาฮาราทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตซาเฮล ปริมาณน้ำฝนจะเพิ่มขึ้นราว 200 – 500 มม.ต่อปี” Yan Li หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว “ผลที่ตามมาคือมีพืชคลุมดินเพิ่มขึ้นราว 20%”
นักวิจัยอธิบายว่าการหมุนของกังหันลมทำให้ความร้อนในชั้นบรรยากาศเกิดการผสมกันในแนวดิ่ง อากาศที่ร้อนกว่าด้านบนถูกดึงลงมาที่พื้นผิว ทำให้เพิ่มความขรุขระของผิวดิน และทำให้เพิ่มลมที่ปกคลุมบริเวณความกดอากาศต่ำ ในที่สุดจะทำให้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้น
ส่วนโซลาร์ฟาร์มทำให้มีฝนตกเพิ่มในอีกลักษณะหนึ่ง แผงโซลาร์เซลล์ดูดซับรังสีจากแสงอาทิตย์ทำให้ไปลดปริมาณแสงที่สะท้อนกลับจากพื้นดิน ซึ่งส่งผลให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นราว 50% และปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นก็ส่งผลให้มีพืชคลุมดินเพิ่มขึ้น
“การเพิ่มปริมาณน้ำฝนและพืชผัก รวมกับการได้ใช้พลังงานสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมสามารถช่วยด้านการเกษตร การพัฒนาทางเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนในแถบทะเลทรายซาฮาร่า ตะวันออกกลาง และพื้นที่ใกล้เคียงอื่นๆ” Safa Motesharrei นักวิจัยอีกคนหนึ่งกล่าว
“ทะเลทรายซาฮาราขยายตัวใหญ่ขึ้นมานานหลายทศวรรษแล้ว โซลาร์ฟาร์มและฟาร์มกังหันลมอาจช่วยหยุดการขยายตัวของพื้นที่แห้งแล้งนี้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก” Russ Dickerson นักวิจัยอีกคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยชิ้นนี้ให้ความเห็น
แต่การสร้างโซลาร์ฟาร์มและฟาร์มกังหันลมขนาดใหญ่ตามแบบจำลองนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก เพราะมันหมายถึงการสร้างโซลาร์ฟาร์มขนาดพอๆกับประเทศจีนหรือสหรัฐอเมริกา สลับกับการสร้างฟาร์มกังหันลมครอบคลุมพื้นที่ราว 20% ของทะเลทรายซาฮาราเลยทีเดียว
ข้อมูลและภาพจาก bbc, sciencealert