ทีมวิจัยยังพบต้นไซเปรสที่อยู่ใกล้กันอีกต้นหนึ่งมีอายุถึง 2,088 ปี ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าในพื้นที่หนองน้ำบริเวณนี้ซึ่งเรียกกันว่า Three Sisters Swamp ยังมีต้นไซเปรสอีกจำนวนมากที่อาจมีอายุเดียวกันหรือบางทีอาจมีอายุมากกว่าก็เป็นได้ Stahle บอกว่าในพื้นที่บริเวณนี้มีต้นไซปรัสที่มีอายุเกิน 1,000 ปีเป็นหมื่นต้น และต้นที่มีอายุเกิน 2,000 ปีอาจจะมีราว 10 – 30 ต้น
“เพราะว่าเราได้เจาะตัวอย่างต้นไซเปรสในบริเวณนี้มาศึกษาเพียง 110 ต้นซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยมากจากที่มีทั้งหมดหลายหมื่นต้น ดังนั้นมันจึงอาจมีต้นไซเปรสที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปีอีกจำนวนมากตลอดช่วงระยะทางราว 100 กิโลเมตรของแม่น้ำ Black River แห่งนี้” ทีมวิจัยกล่าว
ทีมวิจัยได้ค้นพบต้นไซเปรสหัวโล้นที่มีอายุมากเป็นประวัติการณ์นี้โดยบังเอิญ เพราะวัตถุประสงค์หลักของงานวิจัยครั้งนี้คือเพื่อรวบรวมข้อมูลประวัติศาสตร์ภูมิอากาศของสหรัฐอเมริกาตะวันออก โดยการศึกษาและวัดความกว้างของวงปีของต้นไซเปรสซึ่งสามารถบ่งบอกสภาพภูมิอากาศของแต่ละปีในอดีตได้ ปีไหนมีน้ำอุดมสมบูรณ์วงปีจะกว้าง ปีไหนแห้งแล้งวงปีก็จะแคบ และผลจากการค้นพบครั้งนี้เป็นการยืนยันว่าต้นไซเปรสหัวโล้นเป็นพันธุ์ไม้ชนิดเติบโตในพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก
แม้ว่าต้นไม้โบราณเหล่านี้อาศัยอยู่ในพื้นที่คุ้มครองที่เป็นของเอกชนภายใต้หน่วยงานอนุรักษ์ธรรมชาติก็ตาม แต่การดำรงอยู่ของพวกมันยังคงถูกคุกคามจากการตัดต้นไม้เพื่อการแปรรูปและการทำฟาร์มชีวมวลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นักวิจัยบอกว่าหนองน้ำนี้ตั้งอยู่ที่ระดับ 6.5 ฟุต (2 เมตร) เหนือระดับน้ำทะเลปานกลางและมีความเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมโดยระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นจากภาวะโลกร้อน
“ต้นไซเปรสหัวโล้นมีค่าสูงสำหรับการทำไม้และมันก็ถูกตัดโค่นลงมาอย่างหนัก ป่าไซเปรสหัวโล้นบริสุทธิ์ดั้งเดิมเหลือรอดอยู่น้อยกว่า 1%” Stahle กล่าว “การค้นพบต้นไม้ที่มีอายุมากที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือซึ่งเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่มีอายุมากที่สุดในโลกน่าจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจที่มีประสิทธิภาพให้แก่ภาคเอกชน, รัฐบาล และหน่วยงานกลางในการอนุรักษ์แม่น้ำสำคัญสายนี้”
ข้อมูลและภาพจาก charlotteobserver, livescience