งานวิจัยนี้ได้ศึกษาติดตามพฤติกรรมการบริโภคอาหารของผู้ชายจำนวน 1,950 คนที่มีอายุระหว่าง 42 ถึง 60 ปีซึ่งไม่มีการตรวจพบมาก่อนว่าเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด ในจำนวนผู้เข้าร่วมวิจัยดังกล่าวมีข้อมูลเกี่ยวกับ APOE4 จำนวน 1,015 คน และในจำนวนนี้เป็น APOE4 carriers ถึง 32%
หลังจากได้ศึกษาติดตามมาเป็นเวลา 21 ปี ผลปรากฏว่ามีผู้ชายที่ตรวจพบเป็นโรคหลอดเลือดสมองจำนวน 217 คน ผลวิจัยพบว่าการกินไข่หรืออาหารที่มีคลอเรสเตอรอลไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง แม้กระทั่งกลุ่มที่เป็น APOE4 carriers
ผลวิจัยบ่งชี้ว่าการรับประทานอาหารที่มีคลอเรสเตอรอลสูงในปริมาณปานกลาง หรือการกินไข่เป็นประจำทุกวันไม่ได้มีความสัมพันธ์หรือทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองสูงขึ้นเลย รวมถึงคนที่มียีนส์ APOE4 มากผิดปกติซึ่งส่งผลให้มีระดับคลอเรสเตอรอลในเลือดสูงก็ยังให้ผลแบบเดียวกับคนปกติทั่วไป
ในกลุ่มควบคุมระดับสูงสุดผู้เข้าร่วมวิจัยกินอาหารที่มีปริมาณคลอเรสเตอรอลรวม 520 มิลลิกรัมต่อวัน และพวกเขายังกินไข่เฉลี่ยวันละ 1 ฟองอีกด้วย ไข่ 1 ฟองมีคลอเรสเตอรอลราว 200 มิลลิกรัม รวมแล้วในกลุ่มนี้กินคลอเรสเตอรอลถึงวันละ 720 มิลลิกรัม และหนึ่งในสี่ของทั้งหมดมาจากไข่
ผลงานวิจัยนี้นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่ชอบกินไข่เป็นประจำ อันที่จริงไข่ไก่ถือเป็นซุปเปอร์ฟู้ดสุดยอดอาหารที่มีประโยชน์และราคาไม่แพง มีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่ชี้ว่าการกินไข่ไก่เป็นประจำ (รวมถึงการกิน “ไข่แดง” ด้วย) ไม่ได้มีส่วนสำคัญต่อการเพิ่มขึ้นของระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด เนื่องจากคลอเรสเตอรอลในเลือดมาจากการสร้างของตับถึง 80% และตัวกระตุ้นการสร้างคลอเรสเตอรอลของตับก็คือไขมันอิ่มตัวที่มีอยู่มากในเนื้อสัตว์บางชนิดและน้ำมันที่ีใช้ปรุงอาหารหรือพวกไขมันทรานส์ ส่วนในไข่ไก่มีไขมันอิ่มตัวน้อยมาก ขณะเดียวกันการกินไข่ยังช่วยเพิ่มไขมันดี HDL และลดไขมันเลว LDL อีกด้วย
ข้อมูลและภาพจาก wattagnet, msn