ไขมันสีน้ำตาลมีในเด็กมากกว่าผู้หญ่ ในเด็กทารกมีมากถึง 5% ของมวลร่างกายแต่เคยเชื่อกันว่ามันจะหายไปเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ นักวิทยาศาสตร์เพิ่งพบเมื่อไม่นานมานี้ว่าในผู้ใหญ่ยังคงมีไขมันสีน้ำตาลอยู่แต่ในปริมาณที่ค่อนข้างน้อยและคนผอมจะมีมากกว่าคนอ้วน ส่วนใหญ่ไขมันสีน้ำตาลจะอยู่ตรงบริเวณลำคอ
ทีมวิจัยที่มหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ ได้ทำการทดสอบแนวคิดเรื่องนี้กับอาสาสมัครสุขภาพดีจำนวน 9 คนหลังจากพวกเขาได้ทดลองในห้องแล็บแล้วพบว่าได้ผลดี อาสาสมัครมีอายุเฉลี่ย 27 ปี ต้องงดออกกำลังกาย, งดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน รวมทั้งยาและแอลกอฮอล์อย่างน้อย 9 ชั่วโมงก่อนทำการทดสอบ
อาสาสมัครได้รับกาแฟร้อน 1 แก้ว (หรือน้ำ 1 แก้วในกรณีทำการทดสอบเปรียบเทียบ) จากนั้นพวกเขาจะถูกสแกนด้วยเครื่องสแกนความร้อนในระหว่างที่คาเฟอีนออกฤทธิ์
“เรารู้อยู่แล้วว่าไขมันสีน้ำตาลส่วนใหญ่อยู่ที่บริเวณคอ ดังนั้นจึงสามารถตรวจสอบได้โดยตรงหลังจากที่อาสาสมัครดื่มเครื่องดื่มเพื่อดูว่าไขมันสีน้ำตาลร้อนขึ้นหรือไม่” ศาสตราจาร์ Michael Symonds จากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว “ผลออกมาตามคาดและตอนนี้เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคาเฟอีนที่เป็นหนึ่งในส่วนผสมของกาแฟทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นหรือมีองค์ประกอบอื่นที่ช่วยในการกระตุ้นการทำงานของไขมันสีน้ำตาล”
เครื่องสแกนความร้อนแสดงให้เห็นว่าไขมันสีน้ำตาลที่บริเวณคอของอาสาสมัครร้อนขึ้นเมื่อพวกเขาได้ดื่มกาแฟ ซึ่งแสดงว่ามันกำลังเผาผลาญแคลอรี่อยู่ และทีมวิจัยยังบอกว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดพบวิธีที่ง่ายและปลอดภัยในการกระตุ้นไขมันสีน้ำตาลทำงานได้เลย
นอกจากนี้ทีมวิจัยยังพบว่าเมื่อไขมันสีน้ำตาลถูกกระตุ้นร่างกายจะสามารถควบคุมปริมาณน้ำตาลและไขมันที่ไหลเวียนในกระแสเลือดได้ดีขึ้น การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้นนั้นสามารถช่วยปกป้องผู้ป่วยจากโรคเบาหวานประเภท 2 ซึ่งมีอยู่จำนวนมากทั่วโลก
“นี่เป็นครั้งแรกของการศึกษาในมนุษย์ที่แสดงให้เห็นว่ากาแฟ 1 แก้วสามารถมีผลโดยตรงต่อการทำงานของไขมันสีน้ำตาล” Symonds กล่าว “ผลที่อาจเกิดขึ้นจากงานวิจัยของเราค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะโรคอ้วนเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญและโรคเบาหวานก็กำลังขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ไขมันสีน้ำตาลอาจเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาด้วย”
ข้อมูลและภาพจาก nottingham.ac.uk, dailymail.co.uk