บริษัท Tesla Motors ภายใต้การบริหารงานของ Elon Musk อัจฉริยบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ SpaceX, PayPal รวมถึง SolarCity ได้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้อย่างมาก มียอดขายแล้วราว 140,000 คัน ด้วยคุณสมบัติที่ดีกว่ารถยนต์ที่ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์แบบเดิม เช่น ประหยัดกว่ามากเพราะไม่ใช้เชื้อเพลิง เงียบมากเพราะไม่มีเสียงเครื่องยนต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพราะไม่มีการปล่อยควันพิษ อัตราเร่งและความเร็วในการวิ่งดีกว่า รวมทั้งวิ่งได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตรในการชาร์จไฟแต่ละครั้ง
รถ Tesla รุ่นแรกที่ออกสู่ตลาดคือรุ่น Roadster ในปี 2008 มีความเร็วสูงสุดราว 200 กม./ชม. อัตราเร่ง 0 ถึง 60 ไมล์/ชม. ต่ำกว่า 4 วินาที ชาร์จไฟแต่ละครั้งวิ่งได้ระยะทางประมาณ 394 กม. ราคาขายคันละ 109,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2009 ได้ออกรุ่น The Roadster Sport ราคาขาย 128,500 ดอลลาร์สหรัฐ
รุ่นต่อมาคือ Model S ออกวางตลาดในปี 2012 รุ่นนี้มีออปชั่นเลือกขนาดแบตเตอรี่เล็ก-ใหญ่ได้ ปี 2014 ได้ออก Model S รุ่น 85D และ P85D ซึ่งใช้มอเตอร์คู่ขับเคลื่อนทุกล้อ มีอัตราเร่ง 0 ถึง 60 ไมล์/ชม.ภายใน 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 249 กม./ชม. ชาร์จไฟแต่ละครั้งวิ่งได้ถึง 426 กม. ในปี 2015 ออกรุ่น 90D และ P90D ที่มาพร้อม Ludicrous Mode ซึ่งทำให้ยิ่งแรงได้ใจขึ้นไปอีก
อีกรุ่นหนึ่งคือ Model X เป็นรถเอสยูวี ออกวางตลาดเมื่อปลายปีที่แล้ว ราคาขายคันละ 132,000 – 144,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน
ปลายเดือนมีนาคม 2016 Tesla เปิดให้จองรถรุ่นใหม่ คือ Model 3 เป็นรุ่นประหยัดซึ่งจะขายในราคา 35,000 ดอลลาร์สหรัฐและคาดว่าจะเริ่มส่งมอบรถได้ราวปลายปี 2017 โดยให้วางเงินดาวน์ 1,000 ดอลลาร์ ปรากฏว่าได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ทำยอดจองสูงสุดในประวัติศาสตร์เกือบ 400,000 คัน
สำหรับรุ่นล่าสุด Model S P100D มีราคาขายคันละ 134,500 ดอลลาร์ ส่วน Model X P100D ราคา 135,500 ดอลลาร์ ทั้งสองรุ่นใช้แบตเตอรี่ขนาด 100 kWh สำหรับผู้ที่ซื้อรุ่น P90D ซึ่งใช้แบตเตอรี่ขนาด 90 kWh สามารถอัพเกรดแบตเตอรี่เป็นขนาด 100 kWh ได้โดยเพิ่มเงิน 20,000 ดอลลาร์
มีรถยนต์เพียงไม่กี่รุ่นที่มีอัตราเร่งดีกว่า Tesla Model S P100D ได้แก่ Bugatti Veyron Supersport, Ferrari LaFerrari และ Porsche 918 แต่ทั้งหมดนั้นมีราคามากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มากมายมหาศาล
ปัญหาใหญ่อย่างเดียวของ Tesla ในขณะนี้ก็คือผลิตรถได้ไม่ทันความต้องการของลูกค้า Elon Musk กล่าวว่า “เราคิดว่าเราสามารถผลิตรถได้สัปดาห์ละ 200 คัน เรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อเพิ่มจำนวนการผลิตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
เราได้เห็นพัฒนาการของกล้องถ่ายรูปดิจิตอลที่ทำให้ในที่สุดกล้องถ่ายรูปใช้ฟิล์มต้องสูญพันธุ์มาแล้ว ไม่แน่ว่าอีกไม่นานเราอาจจะได้เห็นการสูญพันธุ์ของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบเดิมก็ได้
ข้อมูลและภาพจาก gizmodo, wikipedia