หลักฐานที่สร้างความประหลาดใจอย่างเหลือเชื่อคือการพบดีเอ็นเอของชาวยุโรปในเมืองซินเจียงของจีนที่มาจากช่วงเวลาของจิ๋นซีฮ่องเต้เมื่อศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช
ยังมีหลักฐานที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือมีการขุดพบรูปปั้นนกทำด้วยทองสัมฤทธิ์จำนวนมากที่สุสานจักรพรรดิ ซึ่งทำขึ้นด้วยเทคนิคพิเศษเฉพาะของช่างสมัยกรีกและอียิปต์โบราณ
“เรามีหลักฐานที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างจิ๋นซีฮ่องเต้และชาวตะวันตกก่อนที่จะมีการเปิดเส้นทางสายไหมอย่างเป็นทางการ ซึ่งต่างจากที่เราคิดกันก่อนหน้านี้อย่างมาก” Li Xiuzhen นักโบราณคดีอาวุโสที่พิพิธภัณฑ์สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ กล่าว
“ตอนนี้เราคิดว่ารูปปั้นดินเผา นักกายกรรม และประติมากรรมทองสัมฤทธิ์ที่พบในสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ได้รับแรงบันดาลใจจากงานประติมากรรมและศิลปะของกรีกโบราณ”
มีทฤษฎีที่เชื่อว่าจิ๋นซีฮ่องเต้และช่างชาวจีนอาจได้รับอิทธิพลจากรูปปั้นที่มายังเอเชียกลางหลังจากพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชได้ยกกองทัพมาที่อินเดีย
แต่นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าช่างชาวกรีกน่าจะอยู่ด้วยในขณะที่สร้างรูปปั้นทหาร
Lukas Nickel จากมหาวิทยาลัยเวียนนากล่าวว่า “ผมคิดว่าช่างกรีกโบราณอาจจะอยู่ที่สุสานเพื่อสอนช่างชาวจีน”
สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ที่ถูกค้นพบโดยชาวบ้านขณะกำลังขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำที่นอกเมืองซีอานในปี 1974 นอกจากจะมีรูปปั้นทหารขนาดเท่าตัวจริงที่มีการแสดงออกทางสีหน้าไม่ซ้ำกันแล้ว ยังมีอาวุธโบราณ ม้าที่ทำจากดินเหนียว และรถม้าที่ทำด้วยไม้
หลุมที่สุสานที่มีการขุดค้นแล้ว มีสามหลุมที่เต็มไปด้วยนักรบดินเผา อีกหลุมหนึ่งว่างเปล่า ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นเพราะยังไม่เสร็จ และยังมีหลุมอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ขุด
สำหรับห้องบรรจุพระบรมศพอยู่ที่ตรงกลางของสุสาน มีความสูง 15 เมตร มีขนาดใหญ่โตมโหฬารราวกับสนามฟุตบอล และไม่เคยผ่านการขุดและรื้อทำลายมาก่อน
สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ได้รับคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1987 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งของเมืองซีอาน
ข้อมูลและภาพจาก natureworldnews, independent