ก้อนหินที่มีค่ามหาศาลนี้ถูกปกปิดด้วยดินสกปรก และหลังจากการทำความสะอาดจึงปรากฏสีเขียวใสขึ้น แต่มันไม่ใช่หินหยกชิ้นเดียวที่ใหญ่ที่สุด ชิ้นที่มีขนาดใหญ่กว่านี้และเป็นที่รู้จักกันดีคือหยกที่แกะสลักเป็นพระพุทธรูปที่วัดพระหยก (Jade Buddha Palace) ในประเทศจีน ซึ่งหนัก 260 ตัน
“มันเหมือนกับเราถูกลอตเตอรี่ แต่สิ่งนี้เป็นสมบัติของประเทศ มันเป็นเกียรติแก่ผู้นำของเรา” Sao Min หนึ่งในคนงานเหมือง กล่าว
พม่าเป็นแหล่งหยกที่ใหญ่ที่สุดของโลกและสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล หินหยกก้อนนี้คาดว่าจะถูกส่งไปยังประเทศจีนเพื่อแปรรูปเป็นเครื่องประดับและงานประติมากรรม จากรายงานของปีที่แล้วโดยกลุ่มเฝ้าระวังระหว่างประเทศเปิดเผยว่าผู้นำทางทหารและพ่อค้ายาเสพติดในประเทศมีการค้าหยกที่ผิดกฎหมายมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท
“นี่คือการค้นพบที่ยอดเยี่ยม” Frank Xiao ตัวแทนจำหน่ายหยกในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน กล่าว “จะมีการเจรจาต่อรองอีกมาก แต่ก็มีแนวโน้มที่มันจะถูกส่งมายังประเทศจีน”
“มันจะถูกทำเป็นสร้อยคอและสร้อยข้อมือที่สวยงามในอนาคต รวมทั้งรูปแกะสลักอีกจำนวนมากสำหรับประดับบ้านในประเทศจีน” Xiao เพิ่มเติม
หยกเป็นหินล้ำค่าที่แข็งแกร่งทนทานซึ่งถูกนำมาใช้งานเป็นพันๆปีแล้ว ด้วยความแข็งแรงของมันจึงถูกใช้เป็นอาวุธ เช่น หัวลูกศรและใบขวาน รวมทั้งพวกเครื่องมือ เช่น มีดและตะลุมพุก
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยกให้จีนเป็นตลาดชั้นนำสำหรับหยก และเป็นประเทศที่เป็นผู้นำในการแปรรูปและการตลาดของหยกในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา
ข้อมูลและภาพจาก redorbit, independent