ดิวาลี (Diwali) เป็นเทศกาลยิ่งใหญ่ของชาวฮินดู เป็นทั้งวันปีใหม่ของอินเดียและเป็นวันบูชาพระแม่ลักษมีเทวีด้วย จะมีขึ้นประมาณเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนของทุกๆปี เมื่อถึงเวลาเทศกาลจะมีการตกแต่งประดับไฟตามสถานที่สำคัญอย่างอลังการ ทุกบ้านเรือนจะมีการจุดตะเกียงดินเผาบูชาไฟทุกจุดในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นหลังคาบ้าน ห้องรับแขก ห้องครัว หรือแม้แต่ในห้องน้ำ รวมถึงมีการเล่นดอกไม้ไฟกันด้วย ควันที่ตลบอบอวลไปทั่วนิวเดลีในช่วงเทศกาลดิวาลีทำให้หลายคนคิดไปว่ามันเป็นต้นเหตุสำคัญของมลพิษทางอากาศที่กำลังจะคร่าชีวิตของพวกเขา
แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น ภาพถ่ายของนาซาได้ชี้ชัดว่าต้นเหตุสำคัญของหมอกควันในอินเดียมาจากการเผาเศษพืชและวัสดุทางการเกษตรที่มากเกินไปในบริเวณใกล้กรุงนิวเดลี โดยเฉพาะที่รัฐปัญจาบและรัฐหรยาณา การเผาเศษพืชทำให้เกิดมลพิษที่ส่งผลให้คุณภาพอากาศในพื้นที่ใกล้เคียงลดต่ำลงอย่างรุนแรง นักวิทยาศาสตร์บอกว่าการเผาเศษพืชที่รัฐปัญจาบและรัฐหรยาณามีส่วนทำให้เกิดมลพิษที่นิวเดลีถึง 70%
ปัญหาหมอกควันในอินเดียหยั่งรากลึกกว่าที่คิดไว้ มีรายงานว่าแต่ละปีจะมีฟางข้าวจำนวน 32 ล้านตันถูกเผาโดยชาวนาในพื้นที่เหล่านี้ มันเป็นประเพณีปฏิบัติที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน แม้ว่ารัฐบาลจะแนะนำให้ใช้วิธีอื่นที่ไม่ต้องเผาเศษพืชเหล่านั้น เช่น การใช้เครื่องหว่านเมล็ดที่ไม่จำเป็นต้องเผาฟาง โดยจะช่วยออกค่าใช้จ่ายค่าเครื่องจักรครึ่งหนึ่ง แต่ชาวนาก็ไม่สนใจ
คุณภาพอากาศที่เลวร้ายลงไปทุกทีส่งผลต่อสุขภาพของชาวเมืองนิวเดลีอย่างมาก ระดับของมลพิษในอากาศเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่มากกว่าสองซองต่อวัน ฝุ่นละอองที่เล็กมากขนาด 2.5 – 10 ไมครอนสามารถเข้าไปในปอด ในกระแสเลือด หรือแม้กระทั่งหัวใจ เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเด็กเล็กและคนชรา
จากรายงานการวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ที่เรียกว่า PM 2.5 ที่นิวเดลีในช่วงวันที่ 2 – 3 พศจิกายนนี้ (รูปด้านล่าง) มีค่าสูงถึง 943 สูงกว่าค่ามาตรฐาน (ไม่เกิน 60) มากกว่า 15 เท่า และตามมาตรฐานระดับที่มีอันตรายร้ายแรงคือมีค่าเกิน 500
ล่าสุดสถานทูตสหรัฐในกรุงนิวเดลีรายงานผลการวัด PM 2.5 เมื่อวันที่ 7 พศจิกายน มีค่า 999 !!
ข้อมูลและภาพจาก mashable, natureworldnews