สิงคโปร์ได้กลายเป็นสนามทดสอบที่สำคัญของเทคโนโลยีนี้ ที่นี่เป็นที่ที่รถยนต์ที่ติดตั้งซอฟแวร์ nuTonomy เพิ่งจะผ่านการทดสอบการขับขี่ครั้งแรก ซึ่งประสบความสำเร็จในการขับผ่านสิ่งกีดขวางโดยไม่มีปัญหา ขั้นตอนสำคัญต่อไปคือการได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสิงคโปร์ ซึ่ง Frazzoli ได้ตั้งความหวังไว้อย่างสูง “ทันทีที่ผู้คนเริ่มเห็นเรื่องนี้ว่าเป็นจริง ทำงานได้ดี และมีประโยชน์ต่อสาธารณชนแล้ว ผู้คนจะเริ่มยอมรับว่ามันสามารถใช้แก้ปัญหาการจราจรในเมืองใหญ่ได้” เขากล่าว
บริษัทกล่าวว่ารถแท็กซี่ไร้คนขับจะลดปัญหาการจราจรแออัดโดยการเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดในการเดินทางในเมือง บริษัทเชื่อว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อเที่ยวอาจจะพอๆกับค่าโดยสารรถประจำทาง เพราะไม่ต้องจ่ายค่าคนขับ และเวลาในการรอรถอาจจะต่ำกว่า 15 นาที เหมือนกับการขนส่งสาธารณะ
ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของรถยนต์เหล่านี้คือการลดมลพิษในสิงคโปร์ที่ซึ่งมีประชากรหนาแน่น รถของ nuTonomy เป็นรถไฟฟ้าซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่ารถแท็กซี่ธรรมดา สิงคโปร์ได้ต่อสู้กับระดับมลพิษทางอากาศมาอย่างยาวนาน และในทุกวันนี้ก็ต้องต่อสู้อยู่กับหมอกควันอย่างต่อเนื่อง ในระดับ 60-70 (ปานกลางถึงอันตราย) ของดัชนีมลพิษมาตรฐาน
ในต้นปี 2015 กรมขนส่งทางบกของสิงคโปร์ (LTA) ได้ให้ไฟเขียวให้ทำการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในย่านธุรกิจ OneNorth “เครือข่ายถนนยาว 6 กิโลเมตรจะเปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถควบคุมการขับขี่ในสถานะการณ์จริง” LTA ระบุ
NuTonomy ไม่ได้เป็นบริษัทแรกที่จะขออนุมัติทำการทดสอบใน OneNorth มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ก็ขอทดสอบรถยนต์ไร้คนขับเช่นกัน
ในปี 2014 Frazzoli และเพื่อนร่วมงานของเขาตีพิมพ์งานวิจัยเรื่อง Road Vehicle Automation สร้างโครงร่างระบบรถยนต์อัตโนมัติโดยใช้ชุดคำสั่งจากงานเก่าของ Frazzoli ที่ทำกับอากาศยานไร้คนขับของกองทัพสหรัฐ การวิจัยครั้งนี้ประมาณการว่ารถแท็กซี่ไร้คนขับมีจำนวนประมาณหนึ่งในสามของยานพาหนะทั้งหมดในขณะนี้ จะเพียงพอต่อความต้องการของระบบขนส่งในเมือง “เรื่องนี้มีผลกระทบต่อรัฐบาลสิงคโปร์อย่างมาก” Frazzoli กล่าว “ตอนแรกเราขอให้พวกเขาอนุญาตให้เราทดสอบรถยนต์ แต่ต่อมาพวกเขาเป็นคนขอให้เรามาทดสอบ”
การสอนให้รถยนต์รู้กฎจราจรเป็นเพียงส่วนหนึ่งของซอฟแวร์ ในบางครั้งการทำผิดกฎจารจรที่ไม่สำคัญอาจจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเดินทาง รถแท็กซี่ไร้คนขับของ nuTonomy จะใช้สิ่งที่เรียกว่า “ตรรกบัญญัติ (Formal Logic)” ในการนำทางบนถนนที่วุ่นวายของสิงคโปร์ Frazzoli ใช้ตัวอย่างของการขับรถรอบรถที่จอดซ้อนคัน รถแท็กซี่สังเกตพบว่าไม่มีการจราจรและแซงได้อย่างปลอดภัย “เรื่องแบบนี้เป็นสถานการณ์ที่เราพบทุกวันและเราจะใช้การตัดสินของเราที่จะเข้าใจในกฎที่เราสามารถละเมิดได้” Frazzoli กล่าวว่า “เรามีการตัดสินใจแบบนี้ฝังอยู่ในชุดคำสั่งของเรา”
บริษัทยักษ์ใหญ่เช่น กูเกิล วอลโว่ และฟอร์ดกำลังมีการทดสอบเทคโนโลยีไร้คนขับ Google ได้เปิดตัวฟลีทรถในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเร็วๆนี้ รถยนต์ของ Google ผ่านระดับที่สามของระบบบริหารความปลอดภัยในการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติ ที่กำหนดว่าคนขับสามารถควบคุมรถและใช้เบรกและคุมพวงมาลัยได้อย่างดี ฟลีทรถของ nuTonomy จะเป็นครั้งแรกที่ทำได้ถึงระดับสี่ (เป็นยานพาหนะอัตโนมัติทั้งหมด)
ไม่มีรายละเอียดว่าจะมีการทดสอบบนถนนจริงเมื่อไร แต่บริษัทเชื่อว่าจะมีรถแท็กซี่ไร้คนขับหลายพันคนในถนนของสิงคโปร์ควบคู่ไปกับการขนส่งสาธารณะในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า