Gaudí ใช้เวลากับการออกแบบมหาวิหารแห่งนี้กว่า 40 ปี จนกระทั่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกรถรางชนในปี 1926 ตอนที่เขาเสียชีวิตงานก่อสร้างเสร็จไปราว 20% เท่านั้น แต่ส่วนสำคัญที่เรียกว่า Nativity facade สร้างเสร็จแล้ว ที่น่าประหลาดใจอีกอย่างคือใบอนุญาตก่อสร้างมหาวิหารแห่งนี้เพิ่งจะได้รับอนุมัติในปี 2019 ที่ผ่านมานี่เอง หลังจากที่ Gaudí ได้ยื่นขออนุญาตตั้งแต่ปี 1885 หรือใช้เวลาพิจารณากันนานถึง 134 ปีเลยทีเดียว
แม้ Gaudi จะเสียชีวิตไปแต่ผู้ร่วมงานของเขาได้สานงานทำโครงการต่อไปโดยอาศัยรูปถ่าย ภาพร่าง และแบบจำลองที่ Gaudi ทำไว้ ปี 1936 โครงการต้องหยุดชะงักเพราะสงครามกลางเมืองในสเปน ห้องใต้ดินและแบบจำลองละเอียดถูกเผาทำลาย เมื่อสิ้นสุดสงครามทีมงานก็กลับมาทำงานกันต่อโดยอาศัยภาพร่าง ภาพถ่าย และแบบจำลองอื่นๆที่รอดพ้นจากการถูกทำลาย
Antoni Gaudí เป็นสถาปนิกและวิศวกรโครงสร้างที่มีความคิดทันสมัย ว่ากันว่าความคิดของเขานั้นล้ำหน้ายุคสมัยของตัวเองนับร้อยปี Gaudí มีผลงานอันยอดเยี่ยมจำนวนมาก ผลงานของเขาได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกถึง 7 รายการ หนึ่งในนั้นก็คือมหาวิหารซากราดาฟามีเลียซึ่ง Gaudí ออกแบบให้มีความโดดเด่นด้วยหอคอยยอดแหลมสูงตระหง่าน 18 หออันเป็นตัวแทนของอัครสาวก 12 คน ผู้นิพนธ์พระวรสาร 4 คน พระแม่มารี และพระเยซูคริสต์
ตรงกันข้ามกับภายนอกที่ดูยิ่งใหญ่โอ่อ่า ภายในของซากราดาฟามีเลียกลับมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นึกถึงป่าหินที่เป็นธรรมชาติ เสาขนาดใหญ่ทอดยาวจากพื้นถึงเพดาน โดยมีกิ่งก้านที่บิดเป็นเกลียวพันกันเป็นทรงพุ่มอันวิจิตร ความซับซ้อนทางเทคนิคการก่อสร้างของมหาวิหารและความจริงที่ว่าใช้เงินทุนที่อาศัยการบริจาคของเอกชนเท่านั้น ทำให้การก่อสร้างซากราดาฟามีเลียเป็นไปอย่างล่าช้า จนถึงขณะนี้ก็ใช้เวลาไปแล้ว 140 ปีนับจากการวางหินก้อนแรก ทำให้ซากราดาฟามีเลียเป็นโครงการก่อสร้างที่ยาวนานที่สุดในโลกที่ยังคงดำเนินการอยู่
เมื่องานก่อสร้างล่วงเข้ามาสู่ศตวรรษที่ 21 จึงมีการนำเอาเทคโนโลยีอันทันสมัยหลายอย่างมาใช้ในโครงการซากราดาฟามีเลียด้วย ความท้าทายด้านวิศวกรรมที่ยุ่งยากที่สุดของซากราดาฟามีเลียถูกแก้ปัญหาด้วยซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะก่อสร้างจริง นอกเหนือจากการใช้ซอฟต์แวร์สร้างแบบจำลองเสมือนใหม่ล่าสุดแล้ว ส่วนประกอบต่างๆยังถูกสร้างต้นแบบขึ้นโดยใช้เครื่องพิมพ์สามมิติซึ่งสถาปนิกสามารถตรวจสอบและทำงานร่วมกับแบบจำลองดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (VR)
เดิมโครงการซากราดาฟามีเลียถูกวางแผนให้เสร็จสมบูรณ์ในปี 2026 ซึ่งเป็นปีที่ Antoni Gaudí เสียชีวิตครบ 100 ปีพอดี แต่เนื่องจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 และความล่าช้าในการก่อสร้าง รวมถึงเงินทุนที่ลดลงจากผู้เข้าชมที่น้อยลง ทำให้แผนการถูกเลื่อนออกไปไม่น้อยกว่า 2 ปี และเมื่อซากราดาฟามีเลียสร้างเสร็จสมบูรณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราคงได้เฉลิมฉลองกับมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาด้วยกัน
ข้อมูลและภาพจาก howstuffworks, barcelona.com