ขามัมมี่ถูกคิดไปเองว่าเป็นของเนเฟอร์ตารี่โดยที่ไม่มีใครได้วิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์มาก่อนเลย จนเมื่อเร็วๆนี้ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยซูริคได้รายงานว่าเจ้าของขามัมมี่เป็นผู้หญิงวัยกลางคน สูงราว 165 เซ็นติเมตร และอาจจะเป็นโรคไขข้ออักเสบ
เนเฟอร์ตารี่เป็นหนึ่งในราชินีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอียิปต์โบราณ เธอเป็นมเหสีเอกของฟาโรห์แรเมซีสที่สอง (Ramesses II) ซึ่งเป็นฟาโรห์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อียิปต์ ปกครองอียิปต์นานถึง 67 ปีในช่วงระหว่าง 1279 ปี ถึง 1213 ปี ก่อนคริสต์ศักราช
หลุมฝังศพของเนเฟอร์ตารี่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตที่สุดแห่งหนึ่งในหุบเขาราชินีที่อยู่ใกล้กับเมืองลักซอร์ (Luxor) ผนังฉาบปูนถูกประดับตกแต่งด้วยภาพเขียนสีสันสวยงาม แม้กระทั่งเพดานยังวาดภาพท้องฟ้าประดับดาวยามค่ำคืน รูปปั้นของเธอถูกพบที่มหาวิหารอาบูซิมเบล (Abu Simbel) ทางภาคใต้ของอียิปต์ ยืนเคียงคู่กับรูปปั้นของฟาโรห์แรเมซีสที่สองและมีขนาดเท่ากัน บ่งชี้ถึงศักดิ์ฐานะของเธอได้เป็นอย่างดี
หลุมฝังศพของเนเฟอร์ตารี่ถูกปล้นมาตั้งแต่ยุคโบราณ น่าเสียดายมากที่โลงหินแกรนิตสีชมพูที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่เก็บศพของเธอได้แตกยับเยินเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่ยังมีรองเท้าแตะอย่างดีคู่หนึ่งกับหุ่นรับใช้ (shabtis) ทำจากไม้สลักชื่อเนเฟอร์ตารี่จำนวน 34 ตัวเหลืออยู่
ขามัมมี่ปริศนาที่ปัจจุบันเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์อียิปต์ในเมืองตูริน ประเทศอิตาลี มีทั้งหมด 3 ชิ้น ยังคงถูกห่อด้วยผ้าลินินห่อศพ ชิ้นที่ยาวที่สุดยาวกว่า 30 เซ็นติเมตรเป็นส่วนกระดูกต้นขา กระดูกสะบ้า และบางส่วนของกระดูกหน้าแข้ง ชิ้นที่สองเป็นบางส่วนของกระดูกหน้าแข้ง ส่วนชิ้นที่สามเป็นบางส่วนของกระดูกต้นขา
ทีมวิจัยทำการเอ็กซเรย์ชิ้นส่วนกระดูกพบว่ามันเป็นของผู้หญิง เมื่อพิจารณาจากขนาดกระดูกประกอบกับโรคไขข้ออักเสบที่เข่าและการวิเคราะห์ทางเคมี นักวิจัยประเมินว่าเจ้าของกระดูกมีอายุระหว่าง 40 – 60 ปี ซึ่งสอดคล้องกับอายุของเนเฟอร์ตารี่ที่เสียชีวิตในปีที่ 25 ของรัชสมัยฟาโรห์แรเมซีสที่สอง เธอน่าจะมีอายุระหว่าง 40 – 50 ปี
นักวิจัยวิเคราะห์จากขนาดของกระดูกประเมินว่าเจ้าของกระดูกควรจะสูงราว 165 – 168 เซ็นติเมตร ซึ่งสอดคล้องกับขนาดของรองเท้าแตะที่พบในหลุมฝังศพซึ่งมีขนาดประมาณไซส์ 6.5 ถึง 7
นอกจากนี้พวกเขายังพบว่าน้ำยาดองศพที่ใช้ในการทำมัมมี่ก็เป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ในระหว่างรัชสมัยของฟาโรห์แรเมซีสที่สอง
จากหลักฐานต่างๆจึงนำไปสู่ข้อสรุปว่าขามัมมี่ปริศนาเป็นของราชินีเนเฟอร์ตารี่มากกว่าจะเป็นของลูกสาวของเธอที่ฝังอยู่ในหลุมฝังศพเดียวกัน
“เราไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างสมบูรณ์ว่ามันเป็นของเนเฟอร์ตารี่ แต่ทุกอย่างที่เราพบดูเหมือนจะบ่งชี้มาทางนี้ มันจะง่ายกว่าถ้าเป็นการพิสูจน์ว่าไม่ใช่ เช่นหากเราพบว่ากระดูกเป็นของเด็ก แต่ไม่ใช่ในกรณีนี้ สำหรับขณะนี้นี่เป็นทฤษฎีที่เชื่อถือได้มากที่สุด” Frank Rühli หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว
ข้อมูลและภาพจาก livescience, dailymail