แม้จะมีหลักฐานหลายอย่างสนับสนุนการมีอยู่ของมัน แต่การค้นหามันให้พบมิใช่เป็นเรื่องง่ายๆ เนื่องจากมันอยู่ไกลมาก แสงสะท้อนจากมันอ่อนจางเกินกว่าจะตรวจจับได้ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเรากลับสามารถค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่อยู่ไกลกว่านับล้านเท่าได้ นั่นเป็นเพราะว่าเราตรวจพบดาวเคราะห์เหล่านั้นได้ในขณะที่มันเคลื่อนที่ผ่านหน้าดาวฤกษ์ แต่ในระบบสุริยะเราสามารถเห็นดาวเคราะห์เคลื่อนที่ผ่านดวงอาทิตย์เฉพาะดาวเคราะห์ชั้นในคือดาวพุธกับดาวศุกร์เท่านั้น อีกวิธีที่จะสังเกตเห็นได้คือตรวจจับในขณะที่มันเคลื่อนที่ผ่านแหล่งกำเนิดแสงที่อยู่ห่างไกล เช่น กาแล็กซีหรือดวงดาวในทางช้างเผือก แต่มีโอกาสน้อยมากที่จะค้นพบด้วยวิธีนี้ ล่าสุดมีนักวิจัยเชื่อว่าเราอาจสามารถค้นหามันพบได้ด้วยวิธีอื่น
Man Ho Chan นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮ่องกงได้ใช้การประมาณขนาดและแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ดวงที่ 9 รวมกับวัตถุนอกดาวเนปจูนที่อยู่ใกล้พอที่จะถูกดึงเข้าสู่วงโคจรถาวรรอบดาวเคราะห์ลึกลับนี้ เพื่อประเมินดวงจันทร์บริวารที่เป็นไปได้ของดาวเคราะห์ดวงที่ 9 เขาพบว่าอาจมีดวงจันทร์มากถึง 20 ดวงสามารถโคจรรอบดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ซึ่งดวงจันทร์แต่ละดวงอาจมีขนาดประมาณ 100 กิโลเมตร ที่น่าสนใจยิ่งคือคำถามที่ว่าทำไมดวงจันทร์เล็กๆเหล่านี้ซึ่งน่าจะหาพบยากยิ่งกว่าดาวเคราะห์ดวงที่ 9 กลับอาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การค้นพบดาวเคราะห์ลึกลับที่เรากำลังพยายามค้นหา
คำตอบก็คือผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Tidal Heating” แรงโน้มถ่วงที่ดาวเคราะห์และดวงจันทร์บริวารกระทำต่อกันซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางไปตามการหมุนรอบและวงโคจรก่อให้เกิดการเสียดสีและกลายเป็นความร้อนภายในดวงจันทร์ ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นและเห็นได้ชัดในดวงจันทร์ไอโอของดาวพฤหัสบดีซึ่งได้สะสมพลังงานความร้อนจนแกนกลางหลอมเหลวก่อให้เกิดภูเขาไฟปะทุมากที่สุดในระบบสุริยะ
ดวงจันทร์ของดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ที่ผ่านการสะสมพลังงานความร้อนจากปรากฏการณ์ Tidal Heating มาเป็นเวลานานอาจทำให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ -173 °C (ในอวกาศมีอุณภูมิเฉลี่ยประมาณ -271 °C) และหากดวงจันทร์ของดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ดวงใดดวงหนึ่งมีอุณหภูมิสูงขนาดนี้ พวกมันก็น่าจะปล่อยสัญญาณวิทยุจางๆที่กล้องโทรทรรศน์ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีสามารถตรวจจับได้ เมื่อเราพบดวงจันทร์บริวารของมันแล้วเราก็จะสามารถค้นพบดาวเคราะห์ลึกลับนี้ได้ไม่ยาก
“นี่เป็นวิธีการทางอ้อมแบบใหม่ในการตรวจสอบสมมติฐานของดาวเคราะห์ดวงที่ 9 และเปิดเผยคุณสมบัติพื้นฐานของมัน” Chan กล่าว
เรื่องที่เกี่่ยวข้อง
นาซายอมรับแล้วว่าดาวเคราะห์ดวงที่ 9 มีอยู่จริงและอาจเป็นซูเปอร์เอิร์ธที่หายสาบสูญไป
พบเบาะแสใหม่ในการตามล่าหาดาวเคราะห์ดวงที่ 9 สนับสนุนการมีอยู่จริง
ดาวเคราะห์ดวงที่เก้าคือต้นเหตุที่ทำให้ดวงอาทิตย์เอียงผิดปกติ?
หรือว่าดวงอาทิตย์ของเราจะขโมยดาวเคราะห์ดวงที่เก้า (Planet 9) มาจากระบบดาวอื่น?
ข้อมูลและภาพจาก livescience, sciencealert