“เทคโนโลยีนี้จะเกิดขึ้นในวันใดวันหนึ่ง เมื่อเราสามารถสร้างยานยนต์ไร้คนขับและหุ่นยนต์ที่มีประสิทธิภาพดีพอ การขนส่งสินค้าจะมีต้นทุนต่ำมาก” Jonathan Hurst ผู้อำนวยการสายเทคโนโลยีของ Agility Robotics กล่าว
ทีมวิจัยได้ออกแบบ Cassie โดยการพัฒนาต่อจากหุ่นยนต์สองเท้ารุ่นก่อนหน้านี้ที่ชื่อ ATRIAS “หุ่นยนต์รุ่นก่อนของเรามีมอเตอร์ซึ่งทำงานได้ผลไม่ค่อยดีนัก” Hurst กล่าว “สำหรับ Cassie เราได้แก้ไขปัญหานี้โดยการเพิ่มชุดเฟืองบังคับ เท้า และระบบปิดสนิท ดังนั้นมันจึงสามารถทำงานข้างนอกท่ามกลางสายฝนและหิมะได้”
นอกจากนี้ Cassie ยังมีน้ำหนักราวครึ่งหนึ่งของบรรพบุรุษของมัน และมันไม่ได้ถูกตั้งใจให้มีลักษณะคล้ายนกกระจอกเทศ แม้ว่าทีมงานได้มีศึกษาลักษณะการทำงานของขาของนกด้วยก็ตาม
“เราไม่ได้เลียนแบบรูปลักษณ์ภายนอกของสัตว์ มันแค่เป็นเทคนิคที่ใช้ในการทำให้การเคลื่อนไหวของมันมีความคล่องแคล่วว่องไว มีประสิทธิภาพ และมีความทนทาน” Hurst กล่าว “เราไม่ได้ใส่ใจว่ามันจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร แม้ว่าเราไม่ได้พยายามเลียนแบบแต่ผลที่ได้จากงานวิจัยกลับดูเหมือนกับขานกจริงๆ”
หุ่นยนต์ Cassie ที่ใช้เวลาสร้าง 16 เดือนด้วยเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ได้รับมาจากสำนักวิจัยของกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา ได้กลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมชั้นนำของหุ่นยนต์แบบมีขาของโลกไปเรียบร้อยแล้ว
“เราต้องการออกแบบและสร้างหุ่นยนต์ที่สามารถไปได้ทุกที่ที่คนสามารถไปได้ และทำงานด้วยพลังงานที่เท่ากันกับพลังงานที่คนใช้” Hurst กล่าว
พวกเขามีแผนที่จะทำการผลิตขั้นต้นที่โอเรกอน และมุ่งเน้นธุรกิจไปที่การประยุกต์ใช้หุ่นยนต์แบบมีขา และเมื่อการผลิต Cassie เป็นไปด้วยดี หุ่นยนต์มีขาแบบอื่นๆก็จะตามมา
“การปฏิวัติหุ่นยนต์จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ บางทีอาจจะมาถึงเร็วกว่าที่หลายคนคิด” Hurst กล่าว “เราหวังว่า Agility Robotics จะเป็นส่วนสำคัญของการปฏิวัติ เราต้องการเปลี่ยนชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น”
ดูหน้าตาและการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ Cassie ได้ในวิดีโอด้านล่าง
ข้อมูลและภาพจาก oregonstate, newatlas