ดาวแคระเย็นจัดแบบนี้มีอยู่ทั่วไปในกาแล็กซีของเรา พวกมันถูกมองข้ามไปจนกระทั่ง Michaël Gillon หนึ่งในทีมวิจัยที่เป็นนักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลีแยฌ ประเทศเบลเยียม และทีมงานได้เริ่มต้นศึกษาหนึ่งในดาวแคระเหล่านี้โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ที่ชื่อ TRAPPIST สังเกตแสงดาวและการเปลี่ยนแปลงของความสว่าง พวกเขาพบเห็นเงาที่คล้ายกับอุปราคาวนเวียนผ่านเข้ามาในแสงดาว เงาเหล่านั้นบ่งชี้ว่ามันเป็นดาวเคราะห์ และในที่สุดก็ค้นพบพวกมัน
เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2016 พวกเขาได้ประกาศการค้นพบดาวเคราะห์ 3 ดวง และหลังจากใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศขนาดใหญ่ชื่อ Spitzer ตรวจดูพวกเขาก็พบดาวเคราะห์เพิ่มอีก 4 ดวง และได้ตั้งชื่อดาวเคราะห์ทั้งเจ็ดว่า TRAPPIST-1b, c, d, e, f, g, และ h
ระบบดาวที่ค้นพบใหม่นี้ถือว่าอัดแน่นมาก ดาวเคราะห์จะอยู่ใกล้ๆกัน ดาวฤกษ์และดาวบริวารทั้งเจ็ดมีอาณาบริเวณเล็กกว่าระยะจากดาวพุธถึงดวงอาทิตย์ 5 เท่า ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ศึกษาในรายละเอียดของพวกมันได้ง่ายขึ้น
เมื่อดูจากมวลของดาวเคราะห์บ่งชี้ว่าพวกมันเป็นดาวเคราะห์หินแบบโลก ไม่ใช่ดาวเคราะห์แก๊สแบบดาวพฤหัส เนื่องจากดาวฤกษ์มีขนาดเล็กและมีอุณหภูมิต่ำ เขตที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ (Habitable Zone) จึงอยู่ใกล้กับดาวฤกษ์ และมีดาวเคราะห์ 3 ดวงที่อยู่ในระยะดังกล่าวคือ TRAPPIST-1e, f และ g
“นี่เป็นครั้งแรกที่มีการพบดาวเคราะห์หลายดวงโคจรรอบดาวฤกษ์ดวงเดียวกัน” Gillon กล่าว “มันสามารถจะมีน้ำและอาจจะมีสิ่งมีชีวิต”
แม้ว่าดาวเคราะห์เหล่านี้จะยังไม่มีสิ่งมีชีวิตในตอนนี้ มันก็สามารถมีวิวัฒนาการได้ TRAPPIST-1 ยังมีอายุแค่ 500 ล้านปี แต่อายุขัยที่คาดการณ์ไว้มีได้ถึง 10 ล้านล้านปี ขณะที่ดวงอาทิตย์ของเราตอนนี้ได้เดินทางมาถึงครึ่งทางของอายุขัยที่คาดการณ์ไว้ที่ 10 พันล้านปี
อีกสี่ห้าพันล้านปีข้างหน้าเมื่อดาวอาทิตย์เผาไหม้เชื้อเพลิงจนหมดและระบบสุริยะก็ยุติการคงอยู่ ตอนนั้น TRAPPIST-1 ยังเป็นแค่ดาวฤกษ์วัยละอ่อน
“มันเผาไหม้ไฮโดรเจนอย่างช้าๆ ทำให้มันสามารถอยู่ได้ถึงอีก 10 ล้านล้านปี” Ignas Snellen นักดาราศาสตร์อีกคนจากเนเธอร์แลนด์กล่าว “ซึ่งมีเวลาเหลือเฟือสำหรับสิ่งมีชีวิตที่จะมีวิวัฒนาการขึ้นมา”
Thomas Zurbuchen หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของนาซา บอกว่า “การค้นพบครั้งนี้บอกเราเป็นนัยว่า การค้นหาโลกใบที่สองไม่ใช่เป็นเรื่องว่าจะพบหรือไม่ แต่จะพบเมื่อไรต่างหาก”
ข้อมูลและภาพจาก cnn, reuters, nasa