และแล้วก็มีคำสั่งจากลูกเรือเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23:39 น. เมื่อพวกเขามองเห็นภูเขาน้ำแข็งซื่งในที่สุดได้ทำให้เรือไททานิกจม หลังจากมีเสียงสัญญาณเตือนลูกเรือพยายามที่จะดับเครื่องยนต์
“หยุดทั้งหมด” กัปตันสั่ง
แต่คำสั่งมาสายเกินไป
เรือชนภูเขาน้ำแข็งเวลา 23:40 น. และแม้ว่าลูกเรือจะปิดผนึกประตูกันน้ำได้เมื่อเวลา 23:49 น. แต่น้ำทะเลมากกว่า 1 ล้านแกลลอน (3,700,000 ลิตร) ได้เข้ามาในเรือแล้ว อีกกว่าสองชั่วโมงถัดจากนั้น วิดีโอได้แสดงให้เห็นเครื่องยนต์ที่เงียบเชียบ, ไอน้ำจากบอยเลอร์ที่ถูกปล่อยออกมา และเรือที่กำลังจมลงไปในทะเล วิดีโอยังแสดงให้เห็นน้ำเข้าไปในห้องพักที่ตกแต่งอย่างหรูหราของเรือสำราญลำนี้
ภาพชุดนี้ยังเน้นให้เห็นถึงการสื่อสารที่ผิดพลาด ความล้มเหลวทางวิศวกรรม และระบบความปลอดภัยและการกู้ภัยที่ไม่พอเพียงซึ่งนำไปสู่โศกนาฏกรรม ในที่สุดเรือก็จมลงไปพร้อมกับคนที่ยังอยู่บนเรืออีกมากกว่า 1,000 คน และหลังจากนั้นอีกสองชั่วโมงเรืออาร์เอ็มเอส คาร์เพเทีย ได้มาถึงและนำผู้รอดชีวิตกลับไปได้ประมาณ 700 คน
เรือที่ไม่สามารถทำลายได้
ไททานิกออกการเดินทางครั้งแรกจากเมืองเซาแธมป์ตัน ประเทศอังกฤษไปยังนครนิวยอร์กในวันที่ 10 เมษายน 1912 ด้วยความยาว 882 ฟุต (270 เมตร) ทำให้มันเป็นสิ่งที่เคลื่อนที่ได้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงเวลานั้น หลายคนคิดว่ามันเป็นเรือ “ที่ไม่มีวันจม” Philip Franklin รองประธานของบริษัทเดินเรือสมุทร White Star กล่าวว่า “ไม่มีอันตรายใดๆที่จะทำให้เรือไททานิกจมได้ เรือลำนี้จะไม่มีวันจม และไม่มีความไม่สะดวกใดๆที่ผู้โดยสารจะไม่พอใจ”
ในระหว่างการเดินทาง เรือไททานิกได้บรรทุกคนที่ร่ำรวยมั่งคั่งที่สุด รวมทั้ง John Jacob Astor IV คนที่โอ้อวดว่ารวยที่สุดในโลก ขณะเดียวกันก็ได้บรรทุกผู้อพยพชาวยุโรปที่ยากจนกลุ่มใหญ่ไปอเมริกา มีคนบนเรือตอนที่มันจมทั้งหมด 2,224 คน ซากเรือสามารถกู้ขึ้นมาได้จากความลึกประมาณ 12,500 ฟุต (3,800 เมตร) ใต้ผิวน้ำของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือในปี 1985
ภัยพิบัติซึ่งสูญเสียผู้คนประมาณ 1,500 ชีวิตได้กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านความปลอดภัย หลังการเกิดภัยพิบัติเรือต้องมีเรือชูชีพเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก (ไททานิกมีเพียงพอสำหรับผู้โดยสารเพียงครึ่งเดียว) เรือที่อยู่ใกล้ไม่ได้รับสัญญาณการขอความช่วยเหลือจากไททานิกเพราะผู้ควบคุมเรือได้นอนหลับ ดังนั้นตอนนี้เรือจะต้องมีวิทยุติดตามตลอด 24 ชม. การจมครั้งนี้ยังกระตุ้นให้เกิดสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยของชีวิตในทะเลอีกด้วย