1. ดาวเคราะห์ที่ร้อนที่สุด
อุณหภูมิของดาวเคราะห์ขึ้นอยู่กับว่ามันอยู่ใกล้กับดาวฤกษ์แม่ของมันแค่ไหนและดาวฤกษ์นั้นร้อนขนาดไหน ในระบบสุริยะของเราดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดที่ระยะห่างเฉลี่ย 57.9 ล้านกิโลเมตร อุณหภูมิของดาวพุธตอนกลางวันสูง 430 °C ขณะที่ดวงอาทิตย์มีอุณหภูมิที่ผิว 5,500 °C
ดาวฤกษ์ HD 195689 หรือที่เรียกกันว่า KELT-9 มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ 2.5 เท่า มีอุณหภูมิที่ผิวเกือบ 10,000 °C ดาวเคราะห์ของมันที่ชื่อ KELT-9b อยู่ใกล้กับดาวแม่มากกว่าดาวพุธกับดวงอาทิตย์มาก มันโคจรรอบดาวแม่ทุก 1.5 วัน (คาบวงโคจรดาวพุธคือ 88 วัน) ทำให้มันมีอุณหภูมิสูงถึง 4300 °C ซึ่งร้อนกว่าดาวฤกษ์จำนวนมากที่มีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์
2. ดาวเคราะห์ที่เย็นที่สุด
ด้วยอุณหภูมิที่อยู่เหนือศูนย์องศาสัมบูรณ์แค่ 50 องศา หรือมีอุณหภูมิที่ -233 °C ดาวเคราะห์ OGLE-2005-BLG-390Lb จึงคว้าตำแหน่งดาวเคราะห์ที่เย็นที่สุดไปครอง ดาวเคราะห์ดวงนี้มีมวลมากกว่าโลก 5.5 เท่า และดูเหมือนจะเป็นดาวเคราะห์หินอีกด้วย แม้มันจะอยู่ไม่ได้ไกลจากดาวฤกษ์ของมันมากนักเทียบวงโคจรอยู่ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสของระบบสุริยะ แต่ดาวแม่ของมันมีมวลน้อยและมีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำที่เรียกว่าดาวแคระแดง
ดาวเคราะห์ดวงนี้มักถูกกล่าวอ้างว่าเป็นดาว HOTH ในหนังเรื่องสตาร์วอร์ แต่ในความเป็นจริงมันไม่สามารถจะมีบรรยากาศได้เนื่องจากแก๊สของมันเย็นจนแข็งตัวไปหมด บนพื้นผิวจึงปกคลุมด้วยหิมะ
3. ดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุด
ดาวฤกษ์มีมวลมากกว่าดาวเคราะห์อย่างมากและลุกไหม้ด้วยปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันอันเป็นผลมาจากแรงโน้มถ่วงมหาศาลภายในแกนของมัน ดาวฤกษ์ทั่วๆไปอย่างดวงอาทิตย์เผาไหม้ด้วยการรวมไฮโดรเจนให้เป็นฮีเลียม แต่ยังมีดาวฤกษ์อีกรูปแบบหนึ่งเรียกว่าดาวแคระน้ำตาล (Brown Dwarf) ซึ่งใหญ่พอที่จะเริ่มปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันได้แต่ยังใหญ่ไม่พอที่จะรักษาปฏิกิริยานั้นไว้ได้อย่างถาวร
ดาวเคราะห์ DENIS-P J082303.1-491201 b มีมวลมากกว่าดาวพฤหัสถึง 28.5 เท่าทำให้มันเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุด มันใหญ่มากเสียจนต้องมาถกเถียงกันว่ามันเป็นดาวเคราะห์หรือดาวแคระน้ำตาลกันแน่ ส่วนดาวฤกษ์แม่ของมันได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นดาวแคระน้ำตาล
4. ดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุด
ดาวเคราะห์ Kepler-37b เป็นดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุดเท่าที่เคยพบ มันใหญ่กว่าดวงจันทร์ของโลกเล็กน้อยแต่เล็กกว่าดาวพุธ มันอยู่ใกล้กับดาวฤกษ์แม่ยิ่งกว่าดาวพุธกับดวงอาทิตย์ ดังนั้นมันจึงร้อนมากๆ ร้อนจนน้ำและรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอยู่บนผิวของมันได้
5. ดาวเคราะห์ที่อายุมากที่สุด
ดาวเคราะห์ที่อายุมากที่สุดคือดาวเคราะห์ PSR B1620-26 b มีอายุถึง 12.7 พันล้านปี เป็นดาวแก๊สยักษ์มีมวลเป็น 2.5 เท่าของดาวพฤหัส ดูเหมือนว่ามันจะอยู่มานานแสนนาน เอกภพของเรามีอายุ 13.8 ล้านปีมากกว่ามันเพียง 1 พันล้านปีเท่านั้น
ดาว PSR B1620-26 b มีดาวฤกษ์แม่สองดวงโคจรรอบซึ่งกันและกัน เป็นดาวนิวตรอนกับดาวแคระขาวซึ่งเป็นซากที่เหลือของดาวฤกษ์ที่เผาเชื้อเพลิงจนหมดและระเบิดเป็นซูเปอร์โนวา อย่างไรก็ตามการที่ดาว PSR B1620-26 b ก่อตัวขึ้นในช่วงแรกของประวัติศาสตร์เอกภพมันจึงไม่น่าจะมีธาตุที่หนักอย่างเช่นคาร์บอนและออกซิเจน (ซึ่งเกิดขึ้นภายหลัง) ที่จำเป็นสำหรับการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
6. ดาวเคราะห์ที่อายุน้อยที่สุด
ดาวเคราะห์ V830 Tauri b มีอายุแค่ 2 ล้านปีเท่านั้นเอง ดาวฤกษ์แม่ของมันมีมวลพอๆกับดวงอาทิตย์แต่มีรัศมีใหญ่กว่า 2 เท่า ซึ่งหมายความว่ามันยังไม่ได้หดตัวเต็มที่ ดาวเคราะห์ V830 Tauri b เป็นดาวแก๊สยักษ์ขนาดสามในสี่ของดาวพฤหัส และดูเหมือนว่ามันยังคงขยายตัวอยู่ นั่นหมายถึงมันกำลังได้รับมวลเพิ่มเติมจากการชนกับเทหวัตถุอื่นอยู่บ่อยๆอย่างเช่นดาวเคราะห์น้อยที่อยู่ในเส้นทางโคจรของมัน
7.ดาวเคราะห์ที่มีสภาพอากาศเลวร้ายที่สุด
เนื่องจากดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะอยู่ไกลเกินกว่าที่เราจะสามารถสำรวจสภาพอากาศได้ เราจึงต้องกลับมาพิจารณาในระบบสุริยะของเรา
ถ้าคุณเคยเห็นพายุหมุนเฮอริเคนยักษ์ที่ถ่ายจากยานจูโนที่กำลังโคจรเหนือขั้วดาวพฤหัสละก็ นั่นเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว แต่ดาวเคราะห์ที่มีสภาพอากาศเลวร้ายที่สุดคือดาวศุกร์ ดาวเคราะห์ที่มีขนาดเท่าๆกับโลกแต่ถูกปกคลุมด้วยเมฆกรดซัลฟูริก
บรรยากาศของดาวศุกร์เคลื่อนที่ไปรอบดาวเร็วกว่าที่ดาวศุกร์หมุนรอบตัวเองด้วยลมที่มีความเร็ว 360 กม./ชม. บรรยากาศของมันหนาแน่นกว่าโลก 100 เท่าและประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 97% ผลของภาวะเรือนกระจกทำให้มันมีอุณหภูมิที่ผิวสูงถึง 462 °C สูงกว่าดาวพุธที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดเสียอีก
ข้อมูลและภาพจาก theconversation, nasa