รัฐบาลอินเดียได้เปลี่ยนการใช้พลังงานจากถ่านหินมาเป็นพลังงานสะอาดที่เป็นพลังงานหมุนเวียนด้วยซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลังงานแสงอาทิตย์ ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลอินเดียก็ได้ประกาศยกเลิกแผนการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดใหญ่ที่รัฐคุชราต
Chimanbhai Sapariya รัฐมนตรีพลังงานบอกว่า “ตอนนี้ความสนใจของเรามุ่งไปที่พลังงานหมุนเวียน รัฐบาลจะส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์” ofis taşıma firmaları
รัฐบาลอินเดียได้ประกาศว่าจะไม่มีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่หลังปี 2022 และคาดการณ์ว่าจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 57% ภายในปี 2027 และเลิกใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมดภายในปี 2050
ต้นทุนพลังงานแสงอาทิตย์ลดดิ่งลงอย่างต่อเนื่องตามเทคโนโลยีและการสร้างแรงจูงใจของรัฐบาล ทำให้พลังงานหมุนเวียนในอินเดียยิ่งมีเสน่ห์น่าดึงดูดใจมากขึ้น และอินเดียกำลังนำไปสู่เส้นทางการปฏิวัติพลังงานหมุนเวียน
นักวิเคราะห์ Tim Buckley กล่าวว่า “มาตรการของรัฐบาลอินเดียในการเพิ่มประสิทธิภาพของพลังงานทั้งด้านเป้าหมายด้านพลังงานหมุนเวียนและต้นทุนของพลังงานแสงอาทิตย์ที่ดิ่งลงได้ส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีอยู่แล้วรวมไปถึงโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะสร้างใหม่ ทำให้จำนวนของผู้ที่ไม่สามารถอยู่รอดได้เพิ่มมากขึ้น”
อินเดียยังเป็นประเทศที่มีปัญหาด้านมลพิษทางอากาศเข้าขั้นวิกฤต แต่ละปีมีคนตายก่อนกำหนดจากปัญหานี้ถึง 1.1 ล้านคน เป็นรองแค่ประเทศจีนที่ประสบกับปัญหานี้มากที่สุดในโลก
การลดการเผาถ่านหินเพื่อผลิตไฟฟ้าจะช่วยทำให้คุณภาพอากาศและสุขภาพของผู้คนดีขึ้น นอกจากนี้อินเดียยังมีแผนที่จะให้ขายเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 ซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพอากาศดีขึ้นอย่างมาก
มาตรการทั้งสองอย่างนี้จะช่วยกำจัดปัญหามลพิษทางอากาศที่กำลังรบกวนประเทศอินเดียที่ล่าสุดสหประชาชาติได้ทำนายล่วงหน้าว่าจะมีประชากรแซงหน้าประเทศจีนภายในปี 2024 seo hizmeti
การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรย่อมทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น อินเดียจึงจำเป็นต้องเตรียมรับมือด้วยพลังงานสะอาดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ข้อมูลและภาพจาก futurism, independent.co.uk