Energy Observer เป็นเรือแบบสองลำคู่ (Catamaran) ยาว 30.5 เมตร ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จำนวน 130 ตารางเมตรบนดาดฟ้าเรือ และกังหันลมใหญ่ 2 ตัวที่ด้านท้ายเรือ ในเวลากลางวันเรือจะแล่นด้วยพลังงานจากโซลาร์เซลล์และกังหันลม
ส่วนในตอนกลางคืนหรือในช่วงที่ไม่มีแดดไม่มีลมจะอาศัยเทคโนโลยีพิเศษของเรือลำนี้นั่นคือระบบอิเล็กโทรลิซิสที่สามารถดึงก๊าซไฮโดรเจนจากน้ำทะเลและเก็บไว้ในถังบนเรือ ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังการทำงานเรียกมันว่า “เรือพลังไฮโดรเจนลำแรกในโลก”
“เมื่อเราผลิตพลังงานได้มากกว่าที่ต้องการใช้ เมื่อเรามีแสงแดดและลมจำนวนมาก แนวคิดคือไม่ทิ้งพลังงานส่วนเกินนี้และเก็บมันเอาไว้บนเรือ” Jérôme Delafosse หัวหน้าทีมการเดินทางกล่าว “ไฮโดรเจนเป็นแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับแนวคิดนี้เพราะว่ามันเบามากและมีประสิทธิภาพมากกว่าเชื้อเพลิงอื่นถึง 3 เท่า”
นอกจากนี้เรือลำนี้ยังได้ติดตั้งว่าวใบเรือ (Kite Sail) ที่สามารถลากจูงเรือไปได้ตลอดและยังเป็นตัวผลิตพลังงานอีกแบบหนึ่งด้วย
“เมื่อว่าวใบเรือทำงาน เรือที่แล่นไปข้างหน้าจะทำให้ใบพัดเรือหมุน” Didier Bouix หนึ่งในทีมออกแบบระบบพลังงานของเรือกล่าว “การหมุนของใบพัดเรือผลิตพลังงานไฟฟ้าขี้นในมอเตอร์ นี่เป็นกลไกตรงกันข้ามกับการขับเคลื่อนแบบปกติที่พลังงานไฟฟ้าถูกเปลี่ยนไปเป็นพลังงานกล”
แม้จะดูเหมือนว่าเรือ Energy Observer มีความทันสมัยสุดขีด แต่จริงๆแล้วเรือลำนี้มีอายุถึง 34 ปี สร้างมาตั้งแต่ปี 1983 เพื่อเป็นเรือแข่งความเร็วสูง ถูกนำมาดัดแปลงโดยทีมงานวิศวกร นักออกแบบ และสถาปนิกทางเรือเกือบ 50 คนจนกลายมาเป็นเรือไฮเทคที่ไม่มีการปล่อยมลพิษ
การเดินทางครั้งนี้ทีมงานหวังว่าในการหยุดพักที่ท่าเรือแต่ละแห่งใน 50 ประเทศตลอดเส้นทางจะช่วยประชาสัมพันธ์และสาธิตให้ทุกคนได้เห็นว่ามีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการใช้พลังงานฟอสซิลที่ทำลายสภาพแวดล้อม
“เรือ Energy Observer จะคล้ายกับเครื่องบินพลังแสงอาทิตย์ Solar Impulse ที่ได้ค้นหาหนทางเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า” Bertrand Piccard ประธานมูลนิธิ Solar Impulse กล่าว “เราต้องการนำผู้คนไปสู่อนาคตด้วยการแสดงวิธีการแก้ปัญหาให้เห็นแทนที่จะไปกดดันพวกเขา”
ข้อมูลและภาพจาก fortune, sciencealert