นักวิจัยกล่าวว่าสักวันหนึ่งผิวหนังที่สองนี้จะสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาบางอย่างที่ผิวหนังเช่นกลาก (ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผิวกลายเป็นสีแดง หยาบ และคัน) หรือคนที่มีการอักเสบที่ผิวหนัง โดยทำหน้าที่เป็นที่จัดเก็บและปล่อยยาที่ใช้ในการรักษาปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องกันแสงแดดเมื่อใช้ร่วมกับครีมกันแดด
โดยปกติผิวหนังของมนุษย์จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดขึ้นอยู่กับอายุหรือการเป็นโรค และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจทำให้ผิวหนังสูญเสียความสามารถในการป้องกันสารพิษหรือจุลินทรีย์ รวมถึงการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของผิวด้วย นักวิจัยได้ทำการทดสอบว่าวัสดุซิลิโคนที่พวกเขาสร้างขึ้นมาจะใช้ได้ผลและมีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ โดยทดสอบกับคนที่มีถุงใต้ตา 12 คนและคนที่มีผิวแห้ง 22 คน
นักวิจัยได้ใช้ครีมสองชนิดทาลงบนใบหน้าของผู้ทดสอบ เมื่อครีมรวมตัวกันบนผิวหนัง มันจะกลายเป็นแผ่นฟิล์มใส
นักวิจัยพบว่าผิวหนังที่สองทำให้ผิวหนังจริงกระชับเต่งตึงขึ้น ในขณะเดียวกันมันยังทำให้ดูนุ่มนวลและช่วยป้องกันไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น
ในอีกการทดลองหนึ่งเป็นการทดสอบว่าผิวหนังที่สองมีความคงทนขนาดไหน โดยใช้ผู้ทดสอบ 25 คน นักวิจัยพบว่ามันอยู่บนผิวของผู้ทดสอบได้นาน 16 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามมี 2 คนที่เริ่มมองเห็นรอยต่อระหว่าวผิวเทียมกับผิวจริงเมื่อผ่านเวลาดังกล่าว
ผู้ทดสอบไม่ได้รายงานว่ามีการระคายเคืองใดๆที่ผิวในระหว่างการทดสอบ
ตัวแทนของ Olivo Labs ซึ่งเป็นบริษัทที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาของเทคโนโลยีผิวที่สองนี้กล่าวว่าพวกเขาไม่สามารถเปิดเผยในขณะนี้ได้ว่าเมื่อไหร่มันจะใช้ได้ในเชิงพาณิชย์หรือมันจะมีราคาเท่าไร