ข้อจำกัดของแบตเตอรี่โซลิตสเตตในปัจจุบันได้แก่ ความหนาแน่นของกระแสไฟฟ้าที่ขั้วไฟต่ำ, ช่วงอุณหภูมิใช้งานค่อนข้างจำกัด, วัสดุหาได้ยาก, ราคาสูง และไม่สามารถขยายกระบวนการผลิต เทคโนโลยีโซลิตสเตตของ Fisker ให้ผลเบื้องต้นว่าสามารถสร้างขั้วไฟฟ้า 3 มิติที่มีพื้นที่ผิวมากกว่าขั้วไฟฟ้าแบบแผ่นบาง 25 เท่าและมีคุณสมบัติการนำอิเล็กตรอนและไอออนสูงมาก ทำให้ชาร์จไฟได้เร็วและทำงานได้ในอุณหภูมิต่ำ
ผลที่ได้คือแบตเตอรี่ใหม่ของ Fisker ให้ความหนาแน่นของพลังงานมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนทั่วไป 2.5 เท่า และเป็นไปได้ที่จะมีราคาเพียง 1 ใน 3 จากความก้าวหน้าในด้านวัสดุและการผลิต
Fisker คาดหมายว่าแบตเตอรี่ใหม่นี้จะพร้อมผลิตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าราวปี 2023 ซึ่งค่อนข้างจะนานทีเดียว เนื่องจากยังขาดผู้จัดหาวัสดุที่ต้องการและเครื่องมือในการผลิตที่เหมาะสม รวมทั้งการสร้างกระบวนการที่มีคุณภาพสำหรับการใช้วัสดุซ้ำ
อย่างไรก็ดี Fisker บอกว่าพวกเขากำลังพูดคุยกับกลุ่มอุตสากรรมที่ไม่ใช่พวกยานยนต์อยู่หลายกลุ่ม เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะนำแบตเตอรี่ใหม่นี้ไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้ก่อนปี 2023
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น EMotion ของ Fisker ที่มีกำหนดเปิดตัวปีหน้าและเริ่มผลิตในปี 2019 นั้น Fisker แจ้งว่าจะวิ่งได้ไกล 640 กม.ต่อการชาร์จไฟครั้งหนึ่ง และจะวิ่งได้ 200 กม.สำหรับการชาร์จไฟ 9 นาที
ข้อมูลและภาพจาก greencarcongress, fiskerinc