การค้นพบเกิดขึ้นหลังจากที่ Christopher Shallue วิศวกรด้าน AI ของกูเกิล และ Andrew Vanderburg นักดาราศาสตร์จากนาซาได้สอนให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้วิธีแยกแยะดาวเคราะห์จากข้อมูลการเปลี่ยนแปลงความสว่างเพียงน้อยนิดตอนที่ดาวเคราะห์ผ่านเข้าข้างหน้าหรือพ้นจากดาวฤกษ์ที่บันทึกโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศ Kepler ซึ่งถูกส่งขึ้นไปเก็บข้อมูลไว้จำนวนมหาศาลตั้งแต่ปี 2009 โครงข่ายประสาทของ AI ทำการตรวจค้นอย่างละเอียดและพบสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่อ่อนมากนำไปสู่การค้นพบ Kepler-90i
“เป็นไปอย่างที่เราคาดไว้ จะมีการค้นพบที่น่าตื่นเต้นมากมายซ่อนอยู่ในข้อมูลของ Kepler รอเพียงเครื่องมือที่เหมาะสมหรือเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาเปิดเผยมัน” Paul Hertz ผู้อำนวยการแผนกดาราศาสตร์ฟิสิกส์ของนาซากล่าว “การค้นพบครั้งนี้แสดงว่าข้อมูลของเราจะเป็นขุมทรัพย์ล้ำค่าสำหรับนักวิจัยรุ่นใหม่ในหลายปีข้างหน้า”
ระบบดาวเคราะห์ Kepler-90 มีลักษณะคล้ายกับระบบดาวเคราะห์ของเรามากทีเดียว อย่างแรกคือมีดาวเคราะห์ 8 ดวงเหมือนกัน อีกอย่างคือดาวเคราะห์รอบในมีขนาดเล็ก รอบนอกมีขนาดใหญ่ เพียงแต่ดาวเคราะห์ Kepler-90 จะโคจรอยู่ใกล้กับดาวแม่มากกว่า คาบวงโคจรของดาวเคราะห์ Kepler-90 ทั้ง 8 ดวงคือ 7, 9, 14, 60, 92, 125, 211, และ 331 วันตามลำดับ จะเห็นว่าดาวเคราะห์ Kepler-90h ที่โคจรอยู่นอกสุดมีคาบการโคจรใกล้เคียงกับโลกเท่านั้น ขณะที่ดาวเนปจูนที่โคจรอยู่นอกสุดในระบบของเรามีคาบวงโคจร 60,182 วัน หรือ 164.8 ปี
“ระบบดาว Kepler-90 คล้ายกับระบบสุริยะขนาดเล็ก มีดาวเคราะห์ขนาดเล็กอยู่ด้านในและขนาดใหญ่อยู่ด้านนอก แต่ทุกอย่างจะกระจุกตัวอยู่ใกล้ๆกัน” Vanderburg กล่าว
ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศ Kepler มีสัญญาณของระบบดาวเคราะห์ที่เป็นไปได้มากถึง 35,000 กลุ่ม การตรวจสอบแบบอัตโนมัติและบางครั้งก็เป็นสายตามนุษย์ถูกใช้ในการพิสูจน์สัญญาณที่มีความหวังมากที่สุด แต่อย่างไรก็ดีพวกสัญญาณที่อ่อนมากจะหลุดลอดไปเมื่อใช้วิธีการเหล่านี้ Shallue และ Vanderburg คิดว่ายังมีการค้นพบดาวเคราะห์นอกโลกที่น่าสนใจอีกมากซุกซ่อนอย่างเลือนรางอยู่ในข้อมูลเหล่านั้น
ข้อมูลและภาพจาก nasa, phys.org