การออกแบบขั้นสุดท้ายได้รวมกับสวนครัวในบ้านอย่างลงตัว คล้ายกับผลิตภัณฑ์ของ Click and Grow และ PodPlants โดยการใช้พื้นที่ของผนังซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ส่วนอื่นๆ
แน่นอนว่าสวนผักติดผนังมันมีมาก่อนอยู่แล้ว แต่ Wall Garden ยังประกอบด้วยการรดน้ำอัตโนมัติและระบบไฟแสงสว่างสำหรับพืชที่ปลูก เริ่มต้นด้วยชุดสวนครัวพื้นฐานขนาด 13 x 15.4 x 3.5 นิ้ว (33 x 39.1 x 8.9 ซม.) ที่มีช่องสำหรับกระถาง 5 ช่อง ติดตั้งบนผนังใกล้กับปลั๊กไฟ ติดกรอบแม่เหล็กเข้ากับชุดสวนครัว ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ 18.4 x 18.5 นิ้ว (45.7 x 47 ซม.) ตัวกรอบสามารถสับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับการตกแต่งภายในห้องได้
ผู้ใช้จะสามารถเลือกชนิดของพืชที่จะปลูกได้ ชุดกระถางจะมีพืชชนิดที่ต้องการแสงและน้ำที่คล้ายๆกันให้เลือก Wall Garden มีชุดกระถางให้ แต่ผู้ใช้สามารถซื้อชุดกระถางมาเปลี่ยนใหม่ได้จากเว็บไซต์ Living Art ในราคา 10-15 ดอลลาร์สหรัฐ
ใส่น้ำลงไปในกระถางและสวมกระถางเข้าไปในช่องของชุดสวนครัว Living Art กล่าวว่า Wall Garden สามารถใช้ปลูกโหระพา ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง ผักชี ผักคะน้า แตงกวา มิ้นท์ โบราจ ถั่วแคระ โรสแมรี่ มะเขือเทศ เชอร์รี่ และอื่นๆ พวกเขามีแผนจะสำรวจคนที่สั่งซื้อ Wall Garden เพื่อที่จะตัดสินใจว่ามีพืชชนิดไหนบ้างในการวางตลาด
สามารถเติมน้ำและสารอาหารผ่านทางพวยด้านข้างของชุดสวนครัว และเมื่อเสียบปลั๊กมันจะพ่นละอองน้ำและสารอาหารไปที่รากของพืช น้ำที่เหลือจะตกลงไปในที่เก็บน้ำด้านล่างของตัวเครื่องเพื่อนำกลับมาใช้หมุนเวียนต่อไป Living Art กล่าวว่าจะต้องเติมน้ำและสารอาหารทุก 2-4 สัปดาห์
นอกจากนี้การเจริญเติบโตของพืชยังได้รับการสนับสนุนจากไฟ LED ที่ติดตั้งอยู่ด้านบนของชุดสวนครัว แอปมือถือ (มีทั้ง Android และ iOS) จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งเวลาเมื่อเปิดปิดไฟ แจ้งเตือนเมื่อระดับน้ำต่ำ และช่วยแนะนำวิธีการปลูกพืชด้วย
จากที่เริ่มต้นเป็นผืนผ้าใบที่ว่างเปล่า Wall Garden ช่วยให้ผู้ใช้ปลูกสมุนไพร ดอกไม้ และผักที่เขาเลือกเองจนเจริญเติบโตเต็มกรอบรูป นอกจากนี้ยังไม่มีการใช้ยากำจัดศัตรูพืช ไม่ใช้ดิน การบำรุงรักษาต่ำ และยังเป็นตัวกรองอากาศแบบธรรมชาติในบ้าน Wall Garden กินไฟเพียงประมาณ 650 วัตต์ต่อวัน
Wall Garden มีราคาจองที่ 300 ดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะส่งของได้ในเดือนมีนาคม 2017
ชมวิดีโอแนะนำ Wall Garden ที่ด้านล่าง