บนร่างมัมมี่ผู้ชายที่มีชื่อเรียกว่า Gebelein Man A เป็นวัยรุ่นอายุ 18 – 21 ปี ซึ่งตายเพราะถูกแทงข้างหลัง แต่เดิมเห็นเป็นเพียงรอยดำๆปรากฏที่ท่อนแขนด้านบน แต่เมื่อใช้การถ่ายภาพด้วยรังสีอินฟราเรดจึงพบว่ารอยดำที่เห็นนั้นแท้จริงแล้วมันคือรอยสักรูปสัตว์มีเขา 2 ตัวคือวัวป่าและแกะบาร์บารี
ส่วนบนร่างมัมมี่ผู้หญิงพบรอยสัก 4 รอยมีรูปร่างคล้ายตัว S อยู่บนหัวไหล่ข้างขวา รอยสักบนมัมมี่ทั้งสองร่างถูกทำขึ้นที่ชั้นผิวหนังแท้โดยใช้หมึกชนิดคาร์บอน ลวดลายที่พบเป็นศิลปะในยุคก่อนราชวงศ์อียิปต์ รูปกระทิงและแกะถูกพบบนก้อนหิน ลวดลายรูปตัว S ถูกพบบนภาชนะเครื่องปั้นดินเผาจากยุคเดียวกัน
รอยสักที่ค้นพบนี้เป็นรอยสักรูปสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เก่าแก่กว่าที่เคยพบก่อนหน้านี้ในทวีปแอฟริกาเป็นพันปี แต่มันยังไม่ใช่รอยสักที่เก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งเป็นของมัมมี่ที่ชื่อ Ötzi the Iceman ซึ่งอาศัยอยู่ในยุโรปในช่วงราว 3400 – 3100 ปีก่อนคริสต์ศักราช ถูกค้นพบในปี 1991 มันมีรอยสักลักษณะเป็นเส้นสั้นๆอยู่ทั่วร่างกายรวม 61 เส้น โดยนักวิจัยได้ตั้งสมมุติฐานว่ารอยสักบนมันมี่ Ötzi น่าจะเป็นรอยจากการรักษาโรค
รอยสักบนมัมมี่ Gebelein Man A ยังเป็นหลักฐานยืนยันว่ามีทำรอยสักในผู้ชายชาวอียิปต์โบราณด้วย ไม่ได้มีเฉพาะในผู้หญิงชาวอียิปต์เท่านั้นอย่างที่เข้าใจกันแต่แรก
“การค้นพบครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการทำรอยสักเกิดขึ้นในช่วงเวลาของยุคก่อนราชวงศ์อียิปต์ และมันเป็นหลักฐานการทำรอยสักที่เก่าแก่กว่าที่แอฟริกาเป็นพันปี” นักวิจัยกล่าว
“มันทำให้เรารู้ว่ามีการใช้รอยสักมาตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกของอารยธรรมอียิปต์โบราณ”
ข้อมูลและภาพจาก sciencealert, newatlas