แต่นาฬิกาที่อยู่กับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เตาไฟฟ้าและไมโครเวฟ จะรักษาเวลาให้คงที่โดยการคำนวณจากความถี่ของไฟฟ้ากระแสสลับที่จ่ายให้มัน ในสหรัฐค่านี้จะเป็น 60 เฮิร์ต (รอบ/วินาที) ส่วนในยุโรปเป็น 50 เฮิร์ต นาฬิกาเหล่านี้จะนับจำนวนรอบของไฟฟ้ากระแสสลับแล้วแปลงค่าเป็นเวลาโดยคิดจากค่าความถี่มาตรฐานที่กำหนดไว้
องค์กรควบคุมเครือข่ายระบบไฟฟ้าของยุโรปหรือ ENTSO-E ได้เปิดเผยว่ามีการเบี่ยงเบนเล็กน้อยของค่าความถี่ของกระแสไฟฟ้าทั่วทั้งเครือข่ายใน 25 ประเทศตั้งแต่กลางเดือนมกราคมเป็นต้นมา ค่าเบี่ยงเบนเพียงนิดเดียวนี้กลับส่งผลให้นาฬิกาดิจิตอลทั่วยุโรปบอกเวลาผิดเพี้ยนไป
แทนที่ค่าความถี่ของระบบไฟฟ้าจะเป็น 50 เฮิร์ตเป๊ะๆ มันกลับต่ำลงเล็กน้อยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 49.996 เฮิร์ต ความคลาดเคลื่อนเพียงนิดเดียวนี้พอผ่านเวลาไปราว 2 เดือนได้ส่งผลให้นาฬิกาดิจิตอลเดินช้าไปเกือบ 6 นาที
เนื่องจากระบบไฟฟ้าในยุโรปเชื่อมต่อกัน เมื่อเกิดความไม่สมดุลในบางพื้นที่จะส่งผลให้ความถี่ตกลงเล็กน้อย ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมเครือข่ายสูญเสียพลังงานไฟฟ้าไป 113 กิกะวัตต์-ชั่วโมงเนื่องจากโคโซโวใช้ไฟฟ้ามากกว่าที่ผลิตได้ ตามปกติแล้วเซอร์เบียจะต้องรับผิดชอบในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มให้สมดุล แต่ไม่มีการดำเนินการดังกล่าวเนื่องจากมีความขัดแย้งระหว่างเซอร์เบียกับโคโซโวในเรื่องที่ว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าในโคโซโว ข้อขัดแย้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อพิพาทที่ซับซ้อนซึ่งมีมานานกว่า 20 ปี
ยังดีที่ ENTSO-E บอกว่าปัญหาการเบี่ยงเบนของความถี่ของระบบเครือข่ายไฟฟ้าในยุโรปได้ยุติลงแล้ว แม้ว่าพวกเขายังคงหาวิธีในการชดเชยพลังงานที่สูญเสียไปตั้งแต่กลางเดือนมกราคมอยู่ก็ตาม ไม่เป็นที่เปิดเผยว่ามันถูกแก้ไขอย่างไร แต่ตอนนี้ชาวยุโรปสามารถตั้งเวลาใหม่และนาฬิกาก็เดินได้เที่ยงตรงตามเดิมแล้ว
ข้อมูลจาก theguardian, sciencealert